นายสมปอง อินทร์ทอง อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านการสร้างความเข้มแข็งสู่สหกรณ์ สถาบันเกษตรกร และเกษตรกร ตามนโยบายของรัฐบาลโดยดำริของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนผ่านระบบสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร และเกษตรกร ให้มีศักยภาพสามารถแก้ไขปัญหาและพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จในกิจการและการดำเนินชีวิต โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายนำระบบบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการสู่ความสำเร็จผ่านการวางระบบบัญชีสหกรณ์ ตรวจบัญชีสหกรณ์ ในส่วนของสหกรณ์ สำหรับสถาบันเกษตรกรและเกษตรกรผ่านกลไกครูบัญชีอาสา เนื่องจากที่ผ่านมาความล้มเหลวที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร และเกษตรกรบางกลุ่มไม่มีการวางระบบในการบริหารจัดการ ขาดการจดบันทึกข้อมูลบัญชีรับ-จ่าย และข้อมูลอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพจึงทำให้ไม่สามารถนำข้อมูลต่างๆ ในการประกอบกิจการ กิจกรรม และการดำเนินชีวิตในครัวเรือนมาทำการวิเคราะห์เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาต่อยอดอย่างยั่งยืนในโอกาสที่รัฐบาลให้การสนับสนุน หรือโอกาสอื่นๆ สู่การตัดสินใจในการขยายกิจการ และบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร และการดำเนินชีวิตของเกษตรกรให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้ ซึ่งมีผลต่อความมั่นคงของชาติ
“ปัจจุบันกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้จัดกลุ่มสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร และเกษตรกรไว้ในรูปแบบเดียวกันออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ประสบความสำเร็จ 100 % ที่สามารถนำระบบบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการกิจการและการดำรงชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่มีความสนใจในการนำระบบบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการกิจการและการดำเนินชีวิต แต่ยังไม่สามารถบริหารจัดการด้วยระบบบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับกิจการและการดำเนินชีวิต และกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มที่ต้องได้รับการพัฒนา ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้มองเห็นความสำคัญของการติดอาวุธทางปัญญาด้วยระบบบัญชีให้กับกลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 3 ให้สามารถนำระบบบัญชีไปใช้ได้อย่างเหมาะสม สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางบัญชี เพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการกิจการและการดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว
สำหรับแนวทางในการส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายได้นำระบบบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการได้อย่างประสบความสำเร็จนั้น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์จะได้เร่งสร้างนักบริหารจัดการด้วยระบบบัญชีผ่านการวางระบบบัญชีสหกรณ์ การตรวจบัญชีสหกรณ์ และกลไกครูบัญชีอาสาต้นแบบผู้ประสบความสำเร็จในการนำระบบบัญชีไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นเครือข่ายทางบัญชีสะท้อนตัวอย่าง และแนะนำแนวทางสู่ความสำเร็จในการนำบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการกิจการและการดำรงชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ หวังผลสำเร็จต่อการสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร และเกษตรกร ด้วยระบบบัญชีสู่ความมั่นคงทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและความเป็นอยู่ของประชาชนที่มีผลต่อความมั่นคงของชาติ