ธีระชัย”ชงหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านตรวจสอบ“พรก.กู้เงิน”ส่อผิดกฎหมาย

26 พ.ค. 2564 | 14:37 น.

ธีระชัย”ทำจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน เรียกร้องขอให้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินตามพรก.กู้เงิน ส่อผิดกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากFacebookของนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าฝ่ายค้านว่า

จดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน

วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔

เรื่อง  ขอให้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินตามพระราชกำหนดฯ ที่อาจผิดกฎหมาย

เรียน  นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์  หัวพน้าพรรคเพื่อไทย

ตามที่รัฐบาลได้ออกพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ และก่อนหน้านี้ ได้ออกพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ นั้น  ข้าพเจ้ามีความเห็นว่าการใช้จ่ายเงินตามพระราชกำหนดทั้งสองฉบับดังกล่าวอาจจะฝ่าฝืนกฎหมาย จึงขอเรียนเสนอแนะเพื่อให้ท่านทำการตรวจสอบ  มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

พระราชกำหนดมีบทบัญญัติในเรื่องการใช้จ่ายไว้ด้วยพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓  มีบทบัญญัติในเรื่องการใช้จ่ายไว้ด้วย  โดยมาตรา ๗ ให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้  และมาตรา ๘ บัญญัติให้คณะกรรมการฯ มีหน้าที่  (๑)  พิจารณากลั่นกรองแผนงานหรือโครงการให้เป็นไปตามแผนงานหรือโครงการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ  (๒)  กำกับดูแลการดำเนินงานตามแผนงานหรือโครงการที่ใช้เงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้  และรายงานความก้าวหน้าต่อคณะรัฐมนตรีอย่างน้อยทุกสามเดือน  (๓) ..  (๔) .. (๕) ..  (๖)  เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อวางระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการที่ใช้เงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้ ระเบียบดังกล่าวเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้วให้ใช้บังคับได้  (๗)  ปฏิบัติการอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย

ส่วนพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ มาตรา ๗ ให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ มีหน้าที่อำนาจในการพิจารณากลั่นกรองเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา และให้นำความในมาตรา ๘ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม

บทบัญญัติในเรื่องการใช้จ่ายในพระราชกำหนดเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายในพระราชกำหนดทั้งสองฉบับ มาตรา ๔ บัญญัติให้การกู้เงินตามพระราชกำหนดฯ เป็นการกู้เงินตามมาตรา ๕๓ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งมาตรา ๕๓ วรรคสอง บัญญัติว่า “กฎหมายที่ตราขึ้นตามวรรคหนึ่งต้องระบุวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ระยะเวลาในการกู้เงิน แผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ วงเงินที่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินกู้ และหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดําเนินแผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้นั้น” ซึ่งพระราชกำหนดทั้งสองฉบับก็มีการระบุเช่นนั้น แต่ได้เพิ่มข้อบัญญัติเกี่ยวกับการใช้จ่ายไว้ด้วย ดังที่บรรยายไว้แล้ว

ข้าพเจ้าขอเรียนว่า มาตรา ๕๓ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ มิได้อนุญาตให้มีการบัญญัติเกี่ยวกับการใช้จ่ายใดๆ ไว้ในการตรากฎหมาย จึงเป็นการดำเนินการที่เกินอำนาจ และการใช้จ่ายเงินตามเงื่อนไขในพระราชกำหนดฯ จึงอาจเข้าข่ายเป็นการผิดกฎหมาย

ข้าพเจ้าจึงขอเสนอแนะให้ท่านในฐานะหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทำการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

 ขอแสดงความนับถือ

        (นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)

               อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

สำเนาเรียน

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ

นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รักษาการณ์หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่

นางบุศริณธญ์ วรพัฒนานันน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ

นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพลังปวงชนชาวไทย

 

ที่มา

https://web.facebook.com/100044618165480/posts/337835064380430/?_rdc=1&_rdr