อาเซียนถกรับมือ ความท้าทายใหม่หลังโควิด

28 เม.ย. 2564 | 14:50 น.

อาเซียนประชุมออนไลน์ติดตามผลการดำเนินการตามพิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รับมือสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงต่างๆ  ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ อาเซียนได้จัดประชุมออนไลน์เพื่อเผยแพร่ความคืบหน้าครบครึ่งทางการทำงานตามพิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2025 (AEC Blueprint 2025) หลังจากสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ได้เข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเมื่อเดือนธ.ค.2558 โดยอาเซียนได้ประเมินผลการทำงานที่ผ่านมา รวม 23 ด้าน เช่น การค้าสินค้า การอำนวยความสะดวกทางการค้า การค้าบริการ ทรัพย์สินทางปัญญา และการมีความสัมพันธ์กับประเทศนอกอาเซียนว่าสามารถบรรลุเป้าหมาย  ได้มากน้อยเพียงใด ประเด็นใดที่ประสบความสำเร็จ และควรปรับปรุง รวมทั้งวิเคราะห์ปัญหาและข้อติดขัด ภายใต้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19

อาเซียนถกรับมือ  ความท้าทายใหม่หลังโควิด

 

 จากการหารือ พบว่า มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยในด้านการดำเนินงานให้อาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว ซึ่งเกี่ยวกับการลดเลิกมาตรการภาษี การยกเลิกหรือลดมาตรการที่มิใช่ภาษี การอำนวยความสะดวกทางการค้า และการเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุน ดำเนินการแล้ว 60.3% การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอาเซียน ผ่านการดำเนินนโยบายการแข่งขันเสรีที่มีประสิทธิภาพการส่งเสริมนวัตกรรม และการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ดำเนินการแล้ว 42.1%

อาเซียนถกรับมือ  ความท้าทายใหม่หลังโควิด

การส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและความร่วมมือในสาขาสำคัญ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอาเซียนในเรื่องการขนส่ง เทคโนโลยีสารสนเทศ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน และท่องเที่ยว ดำเนินการแล้ว 52%

ส่วนการดำเนินมาตรการเพื่อให้อาเซียนสามารถปรับตัวและมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน ผ่านการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) การเสริมสร้างความเข้มแข็งและบทบาทของภาคเอกชน การพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน และการลดช่องว่างการพัฒนา ดำเนินการแล้ว 43.5% และการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศนอกภูมิภาค ผ่านความร่วมมือและการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ดำเนินการแล้ว 54.5%         

สำหรับผลงานสำคัญของอาเซียน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เช่น การลดภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันของอาเซียน ให้เหลือ 0% ดำเนินการแล้ว 98.6% การใช้งานระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน (ASEAN-wide Self-certification) โดยผู้ส่งออกที่ขึ้นทะเบียนสามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของตนเองเพื่อใช้สิทธิทางภาษีในอาเซียน การเชื่อมโยงและใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน (ASEAN Single Window) เพื่อแลกเปลี่ยนหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ การลงนามข้อตกลงยอมรับร่วมกันในด้านมาตรฐาน สาขาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยา อาหารสำเร็จรูป และยานยนต์และชิ้นส่วน การลงนามความตกลงการค้าบริการของอาเซียนฉบับใหม่ ช่วยให้กฎระเบียบด้านบริการของสมาชิกอาเซียนมีประสิทธิภาพและไม่เป็นอุปสรรคทางการค้าบริการเกินความจำเป็น การจัดทำความตกลงว่าด้วยพาณิชย์เล็กทรอนิกส์ของอาเซียน เพื่ออำนวยความสะดวกการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนและสร้างความเชื่อมั่นในการทำการค้าออนไลน์ และการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็น FTA ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกและจะช่วยขยายโอกาสและสร้างแต้มต่อให้สินค้าไทยในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศ RCEP