นายกฯกางไทม์ไลน์การจัดหาวัคซีนโควิด-19

20 เม.ย. 2564 | 09:12 น.

นายกฯเผยไทม์ไลน์การจัดหาวัคซีนโควิด-19 ย้ำรัฐฯไม่นิ่งนอนใจเร่งจัดหา-ฉีดให้ครอบคลุม ยืนยันไม่ได้ผูกขาดพร้อมเปิดโอกาสให้เอกชนนำเข้าวัคซีนได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า การจัดหาวัคซีนโควิด-19ของไทยนั้น เริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. มีวัคซีนเข้ามา 317,000 โดส แบ่งเป็นซิโนแวค 200,000 โดส แอสตราเซเนกา 117,000 โดส  ต่อมาในเดือน มี.ค.ซิโนแวคเข้ามาอีก 800,000 แสนโดส  เดือนเม.ย.ซิโนแวคเข้ามาอีก 1,000,000 โดส รวมเข้ามาแล้ว 2,117,000 โดส


"ตอนนี้ได้จัดแผนในการแจกจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆเพิ่มเติมมากขึ้นแล้ว และขอให้เร่งรัดการฉีดให้มากยิ่งขึ้น หากบุคคลากรทางการแพทย์ ไม่พอขอให้ไปรวบรวมบรรดาหมอ พยาบาล ที่มีความสามารถ มารวมช่วยกันฉีด"


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันโรงพยาบาลเอกชนก็พร้อมยินดีช่วยฉีดตรงนี้ โดยได้มีการหารือกันอยู่แล้วว่าจะทำอย่างไรให้รวดเร็วขึ้น ในส่วนของวัคซีนที่ประมาณการไว้ที่จะเข้ามาและติดต่อไว้ในขณะนี้เรียนให้ทราบ ในวันที่ 24 เม.ย.ซิโนแวคจะเข้ามาอีก 5 แสนโดส เดือน พ.ค.ซิโนแวคเข้ามาอีก 1 ล้านโดส แต่ในส่วนของ 1 ล้านโดสต้องรอนโยบายของรัฐบาลจีนด้วย เพราะการนำออกจากประเทศจีน ต้องขออนุมัติรัฐบาลจีนก่อน ตรงนี้ถือว่าหารือกันเป็นประจำอยู่แล้ว


ในส่วนของแอสตราเซเนกาที่ผลิตในประเทศไทย จะเริ่มทยอยส่งตั้งแต่ในเดือนมิ.ย.ประมาณ 4-6 ล้านโดส และเพิ่มจำนวนตั้งแต่เดือนก.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 64 จนครบ 61 ล้านโดส เพราะฉะนั้นเมื่อบวกกับที่รัฐฯได้จัดหาเพิ่มเติมเป็นวัคซีนทางเลือกก็คิดว่าน่าจะเพียงพอ 


"สถาบันวัคซีนแห่งชาติกำลังเจรจากับไฟเซอร์ ประเทศอังกฤษ มีความเป็นไปได้ว่าจะส่งวัคซีนให้ได้ช่วงเดือนก.ค.ถึงสิ้นปี 64 ประมาณ  5-10 ล้านโดส ซึ่งขณะนี้กำลังรอใบเสนอราคาและเงื่อนไขอยู่ ก็ถือว่าไทยมีวัคซีนอีกหลายยี่ห้อด้วยกัน แตไม่อยากพูดไปล่วงหน้า เพราะอยู่ในขั้นตอนการติดต่ออยู่ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ"


 

ส่วนกรณีที่กระแสโซเชียลโจมตีรัฐบาลกรณีอยากให้เปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวว่า ได้ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาดำเนินการมาตลอด แต่ต้องการให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกคณะหนึ่งที่มี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษา ศบค. เป็นประธาน ได้หารือสมาคมโรงพยาบาลเอกชน และผู้รู้ทั้งหลายมาให้ข้อมูลตรงนี้ ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ได้อย่างไรให้ได้วัคซีนทางเลือกเข้ามาในประเทศไทย


"วัคซีนสำคัญอีกตัว คือบริษัทเอกชนเวลาเขาจะนำออกมาเขาก็ต้องขออนุญาตรัฐบาลเขาเช่นกัน เราก็ติดต่อรัฐบาลต่อรัฐบาลด้วย เพราะฉะนั้นเป็นความยากง่ายของเรา ก็ขอกราบเรียนว่าที่เราได้รับวัคซีนมาในช่วงแรก เราจัดซื้อ สั่งมา ในฐานะที่เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีมากในระยะที่ 1 เราก็จัดหาวัคซีนมาตามความจำเป็น เราไม่อยากทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงในกรณีที่วัคซีนเหล่านั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทราบ วันนี้เมื่อพิสูจน์ทราบมาแล้วตนก็เปิดโอกาส ช่องทาง ให้หลายๆยี่ห้อได้เข้ามาเสนอความต้องการจะขายวัคซีนให้กับเรา เราก็ต้องหาช่องทางว่าจะซื้อได้อย่างไร วันนี้เนื่องจากเป็นการติดต่อระหว่างรัฐต่อรัฐในการใช้วัคซีนในสถานการณ์ฉุกเฉินเวลานี้ เพราะฉะนั้นต้องไปดูภาคเอกชนของเขา กับรัฐของเขาด้วย แล้วเราก็พร้อมที่จะรับวัคซีนของเขามา"


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในขณะนี้ ขอให้เข้าใจตรงนี้แล้วกัน ไม่ใช่เพราะเราจองช้าหรือช้าเกินไป จำนวนน้อยเกินไป ทุกอย่างมันพัฒนาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่อยากให้ประชาชนต้องมีความเสี่ยง ในตอนแรกที่เริ่มมีการผลิตวัคซีนออกมา หลายประเทศก็เช่นเดียวกันกับเรา ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนนั้นตนได้เร่งรัดให้มีการฉีดให้เร็วที่สุดในโควตาที่ให้ไป ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนรับบริการวัคซีนให้ทั่วถึงตามกำหนดความเร่งด่วนออกไปในขณะนี้ของกระทรวงสาธารณสุข


"วันนี้ตนเร่งรัดในครม.ไปแล้ว ให้ทุกจังหวัด ให้กทม. เร่งฉีดวัคซีนที่ได้รับไปให้เร็วที่สุด จำนวนมากที่สุดที่ได้ไปจนครบ และรัฐบาลก็เตรียมวัคซีนสำรองตรงนี้ไว้อีกด้วยในระยะต่อๆไปเพื่อให้ทั่วถึง เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้"


นายกฯ กล่าวอีกว่า ที่ถามว่ารัฐบาลไม่เปิดทางให้เอกชนเป็นเรื่องการผูกขาดนั้น เป็นไปไม่ได้เพราะตนไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย คิดแต่เพียงว่าทำอย่างไรจะปลอดภัย ทำอย่างไรจัดหาได้ และในส่วนของการดำเนินการเราไม่สามารถไปซื้อเหมือนซื้อยาปกติทั่วไปได้ เพราะเป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินในปัจจุบัน และบริษัทผู้ผลิตเอกชนนั้นไม่รับผิดชอบในกรณีที่เกิดผลกระทบหรือผลข้างเคียง จึงจำเป็นรัฐต้องเป็นผู้จัดหาในขณะนี้ ซึ่งต่อไปคงคลี่คลายตรงนี้ไปได้