PRINC คาดนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 กลางปี 64

นายธานี มณีนุตร์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (PRINC) เปิดเผยว่าทางกลุ่มบริษัทได้ดำเนินการติดต่อไปยังบริษัทผู้นำเข้าวัคซีนซิโนแวคและวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า คาดว่าจะสามารถนำเข้ามาได้ภายในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2564 นี้ คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการฉีดวัคซีนกับประชาชนทั่วไปได้ในช่วงกลางปีเป็นต้นไป ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีหลายธุรกิจเอกชนที่ประสานมายังเครือโรงพยาบาลพริ้นซ์ฯ เรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบประสงค์ที่จะชำระเองโดยไม่รอการจัดสรรของภาครัฐโดยเฉพาะธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ ซึ่งทางเครือโรงพยาบาลอยู่ระหว่างดำเนินการยื่นอย.เพื่อขอนำเข้าวัคซีน 

ทั้งนี้ ทางบริษัทกำลังดำเนินการรวบรวมความประสงค์ของภาคเอกชนต่างๆ เพื่อประสานบริษัทผู้นำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ทราบถึงจำนวนความต้องการที่แท้จริงก่อนดำเนินการจองและประเมินความพร้อมการวัคซีนไว้ล่วงหน้า ส่วนกรณีภาครัฐเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการกระจายวัคซีน เพื่อให้การให้วัคซีนครอบคลุมจำนวนประชากรโดยเร็วที่สุด นับเป็นเรื่องสำคัญและส่งผลดีสำหรับภาพรวมของประเทศ มุ่งหวังให้เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศกลับมาฟื้นฟูโดยเร็วที่สุด นับเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่บริษัทฯได้แสดงความจำนงการเข้าร่วมให้บริการวัคซีนในครั้งนี้มากกว่าจะมุ่งหวังผลกำไรจากการนำเข้าวัคซีน เพราะคิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่น้อยมาก แต่จะสร้างประโยชน์เศรษฐกิจกับประเทศโดยรวมในอนาคต

"บริษัทมีศักยภาพในการให้บริการวัคซีนกับประชาชนทั่วไป เนื่องจากมีโรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด เปิดให้บริการรวม 12 แห่งใน 10 จังหวัด ได้แก่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิจังหวัดสมุทรปราการ โรงพยาบาลพริ้นซ์ปากน้ำโพ 1 และโรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ 2 โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี โรงพยาบาลพิษณุเวช จังหวัดพิษณุโลก โรงพยาบาลพิษณุเวช อุตรดิตถ์จังหวัดอุตรดิตถ์ โรงพยาบาลพิษณุเวช พิจิตร จังหวัดพิจิตร โรงพยาบาลศิริเวชลำพูน จังหวัดลำพูน โรงพยาบาลพริ้นซ์ลำพูน จังหวัดลำพูน โรงพยาบาลวิรัชศิลป์ จังหวัดชุมพร โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานีจังหวัดอุบลราชธานี และล่าสุดโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ที่เตรียมเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนนี้"