'ธนาธร'ไม่หวั่น ม.112 จี้เปิดเอกสาร "สยามไบโอไซเอนซ์"

20 ม.ค. 2564 | 14:17 น.

"ธนาธร" เปิดโพสต์ หลังโดน ดีอี แจ้งความ "ม.112" ชี้ ยิ่งใช้คดีก่อกวน ยิ่งตอกย้ำข้อสงสัย จี้รัฐบาลเปิดข้อมูล - เอกสารสัญญา เหตุใดเลือก "สยามไบโอไซเอนซ์" จัดหาและผลิตวัคซีน

จากกรณี นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ดีอีเอส) มอบหมายตัวแทนนักการเมือง เข้ายื่นแจ้งความ ร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิด นายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ  ประธานคณะก้าวหน้า  ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังจากนายธนาธร ไลฟ์สด ตั้งข้อสังเกตเรื่องการจัดหาและการผลิตวัคซีนในหัวข้อ "วัคซีนพระราชทาน: ใครได้ใครเสีย?" คืนวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาบางส่วนบางตอน ซึ่งรัฐบาลมองว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงนั้น 

ล่าสุด (20 ม.ค.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงการถูกแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว พร้อมตั้งคำถามกลับ ถึงการจัดหาวัคซีนโควิด กับ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ อีกครั้งว่า ....

ต่อให้ดิสเครดิตหรือเอาคดีความมาก่อกวนมากแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้ข้อสงสัยที่ผมตั้งไว้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น

ทำไมรัฐต้องรับหน้าแทนบริษัทเอกชนมากขนาดนี้ ยอมรับแล้วหรือไม่ว่าเราให้สิทธิพิเศษแก่บริษัทเอกชนนี้จริงๆ?

'ธนาธร'ไม่หวั่น ม.112 จี้เปิดเอกสาร  "สยามไบโอไซเอนซ์"
 

ถ้าอยากจบเรื่องนี้ก็ต้องชี้แจงด้วยเอกสาร-หลักฐานให้กระจ่าง โดยผมขอให้เปิดเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น

1.สัญญาจ้างผลิตระหว่าง AstraZeneca กับ Siam Bioscince ว่าตกลงแล้วจะรับผลิตกี่โดส ราคาต้นทุนการผลิตของบริษัทเท่าไหร่ ราคาขายให้ AstraZeneca เท่าไหร่ มีรายละเอียดในสัญญาอย่างไรบ้าง

2.สัญญารับงบประมาณระหว่างสถาบันวัคซีนแห่งชาติกับ Siam Bioscience ว่ามีรายละเอียดเงื่อนไขอย่างไร มีมูลค่าเท่าไหร่กันแน่ และเอาไปใช้ทำอะไร ตรงตามที่เคยแถลงไว้หรือไม่

3.บันทึกการประชุมของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติและเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการวางเงื่อนไข คุณสมบัติ และรายละเอียดของเอกชนที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐในการผลิตวัคซีนเพื่อให้ประชาชนแน่ใจว่าการเลือกสนับสนุน Siam Bioscience เป็นไปอย่างโปร่งใส ถูกต้องตามหลักการ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
 
ยิ่งเปิดเผยมากยิ่งโปร่งใส

ขอยืนยันอีกครั้งว่าผมเห็นด้วยทุกประการที่รัฐหรือเอกชนไทยจะได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อผลิตวัคซีน แต่ผมตั้งคำถามถึงกระบวนการคัดเลือกเอกชน การใช้ประเด็นเรื่องวัคซีนมาสร้างความนิยมทางการเมือง และวิธีการบริหารจัดการที่ไม่มีการกระจายความเสี่ยง ทำให้ประชาชนได้รับวัคซีนช้าและครอบคลุมประชากรน้อยกว่าประเทศอื่น ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า หากยึดตามไทม์ไลน์ของรัฐบาล กว่าเราจะกลับทำมาหากินได้ตามปกติไม่ต้องเปิดๆ ปิดๆ แบบนี้ ก็อย่างน้อยปี 2565 ซึ่งประชาชนรอไม่ไหว!

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ดีอีเอส-ทศพล-แรมโบ้”แจ้งความเอาผิด“ธนาธร” ม.112 ปมพาดพิงสถาบัน

วัคซีนโควิด-19 จากจีนถึงกัมพูชาเดือนกุมภาพันธ์ "ฮุน เซน" ฉีดคนแรก

“แรมโบ้”เล็งดำเนินคดี"ธนาธร"ความผิดม.112-พรบ.คอมฯ

อย.แจงปมร้อน ยัน ไม่กีดกัน รพ.เอกชน ขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19

คลอดแล้ว ! แผนงานให้วัคซีนโควิด-19  ระบุกลุ่มฉีดอันดับต้น ๆ