กับข้าวโรมัน

09 ม.ค. 2564 | 04:40 น.

 

พวกโรมันกินข้าวกันวันละสี่มื้อ มื้อแรกกินขนมปัง เนยแข็งและเครื่องดื่ม เรียกว่า Jentaculum เจนตะคิวลุม แปลโดยสะเพร่าว่ามื้อเช้าต่อมาตอนสายๆกินลูกมะกอกรสฝาดมันดองเกลือแกล้มผลไม้ เช่น มะเดื่อ และลูกนัท (ถั่ว) เรียกว่า Prandium-แพรนดิอุม แปลโดยสะเพร่าอีกว่ามื้อสาย

จากนั้นรอตะวันตรงหัวจึงกินมื้อสาม ชื่อ Cena-เซนา อันประกอบด้วยคาราวานอาหาร 3 คอร์สใหญ่ ก.ไข่ โดยจำเพาะไข่ไก่, มะกอกดำ/เขียวดอง, ไวน์น้ำผึ้งรสหวานเรียกน้ำย่อย ข.ของย่าง เช่น หมูย่างเถือเนื้อ/ไก่อบ/แกะทั้งขา ค.ผลไม้หวานเช่น ผลส้ม, แตงอย่างแคนตาลูป, นัทผลถั่วต่างๆ

 

กับข้าวโรมัน

กับข้าวโรมัน

ป.ล.ในกรณีมีกำลังทรัพย์มากของย่างเปลี่ยนจากไก่เป็นนกยูง,หมูเป็นสิงโตและขาแกะเป็นขายีราฟ (โฮ)

ป.ล.อีกครั้ง การกิน Cena ให้ดีมีเกียรตินั้นต้องเอกเขนกกิน กินบนตั่งอย่างว่าเอนอิงและมีหมอนเขนยขนาย กินที่โรงอาบน้ำยิ่งดูดีมีฐานะเข้าไปอีก ด้วยเหตุที่ว่ามื้อเที่ยงกินเร็วไปตกบ่ายค่ำท้องก็ร้องอีก 

Vesperna กับข้าวมื้อก่อนนอนก็ต้องแวะมาครานี้ อาจจะเป็นของเบาหน่อย เช่น ขนมปังจุ่มเหล้าองุ่น ปูต้ม ขาเนื้อเค็มฝาน ลูกองุ่นกับเนยแข็ง...อืมมม

กับข้าวโรมัน

เวลานี้กรุงโรมันหาไม่มีแล้ว เหลือก็แต่กรุงโรมในอิตาลี มีคนอยู่ก็ไม่รู้ชัดว่าโรมแบบโรมันจริงหรือเปล่า ยามเมื่อทุกฝ่ายปิดประเทศท่านที่หวลนึกถึงโรม-อิตาลี ก็ขอเชิญไปกระจายรายได้กันที่ ที่ “Piccola Roma Palace” ช้างคลาน

ภัตตาคารเก่าแก่แห่งนี้บริการกับข้าวกรุงโรมด้วยเกียรติยศการครัว (Culinary Honour) อันน่าประทับใจ เชิญท่านลองหมูย่าง กุ้งต้ม แกล้มด้วย ผักอบ และกับข้าวเส้นรสเลิศโดยเฉพาะเส้นแบนหมึกดำผัดไวน์ขาวกุ้งสดและแฮมโรมฝานบางแกล้มดอกอาติโช้กหัวใจชมดูเอาเถิด. อมตะวลี ที่ว่า When in Rome, do what Rome does. จะกระจ่างแก่ใจขึ้นมาโดยรสชาติอันวิเศษโอชาฉับพลันนั้น แหม่-Joie de la Cuisine.

 

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ  ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,643 วันที่ 10 - 13 มกราคม พ.ศ. 2564