บลจ.กรุงไทยขายตราสารหนี้1ปีชู1.85%

20 เม.ย. 2559 | 07:44 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

นางชวินดา  หาญรัตนกูล   กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า  บริษัทเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 95 ( KTFF95 )  อายุ 1  ปี   เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 26 เมษายน 2559  เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศทั้ง100%  ประกอบด้วย  MTN  ที่ออกโดย   Emirates NBD PJSC     เงินฝากประจำ  Mashreqbank PSC  (UAE )  , First Gulf Bank PJSC  , Ahli bank QSC   และ Union National Bank PJSC   ผลตอบแทนประมาณ 1.85%  ต่อปี

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over  )  ของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือน คุ้มครองเงินต้น  2 ( KTFIX3M2 )  เสนอขายถึงวันที่ 22  เมษายน 2559   อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 81% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์  ผลตอบแทนประมาณ 1.10% ต่อปี  โดยทั้ง2 กองทุน ไม่เสียภาษี  ณ ที่จ่าย

พร้อมกันนี้  ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุน มีมติจ่ายเงินปันผล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท ( TLGF  )  ครั้งที่ 16  ในอัตรา0.2190 บาท ต่อหน่วย โดยจะทำการขึ้นเครื่องหมาย XD  ในวันที่ 26 เมษายน 2559  และปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 29 เมษายน 2559  พร้อมจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 พฤษภาคม 2559   โดยรวมป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 500  ล้านบาท

ส่วนอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศอายุคงเหลือตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างประเทศ ในขณะที่นักลงทุนในประเทศชะลอการลงทุนในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นยอดขายสุทธิจำนวน 3,747 ล้านบาท  โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.36% ต่อปี  อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 bps. อยู่ที่ 1.50% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7 bps. อยู่ที่ 1.72% ต่อปี ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ จะเป็นความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ  และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ

ด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา อายุคงเหลือตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายทำกำไรจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้น ราคาน้ำมันดิบ และตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาดี ในขณะที่การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกของ IMF ในช่วงกลางสัปดาห์ทำให้ตลาดยังคงคาดการณ์ว่า FED จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ    โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 bps อยู่ที่ 0.74% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 bps.  อยู่ที่ 1.22% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 bps. อยู่ที่ 1.76% ต่อปี