EV แห่ลดราคาเคลียร์สต๊อก BMW i3s เหลือ 2.29 ล้าน

27 ธ.ค. 2563 | 00:45 น.

รถยนต์ EV กลุ่มบุกเบิกปรับราคาใหม่ช่วงปี 2563 ทั้ง BMW i3s ลดลง 1.44 ล้านบาท เร่งเคลียร์สต๊อกเปิดทางเอสยูวี iX3 นำเข้าจีนทำตลาดปีหน้า ด้าน Kia Soul EV ราคาใหม่ 2.037 ล้านบาท โดนซื้อเกลี้ยง

รถพลังงานไฟฟ้า 100% หรือ อีวี (EV) ที่รัฐบาลมีแผนสนับสนุนให้เกิดการใช้และการผลิตในประเทศ สร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และเป็นไปตามทิศทางของโลก พร้อมลดปัญหามลพิษจากการจราจรบนท้องถนน

ช่วงเริ่มต้นของการทำตลาด EV ในเมืองไทยเป็นการนำเข้าเกือบทั้งหมด มีเพียง ฟอมม์ และ ทาคาโน่ ทุนญี่ปุ่นที่มาตั้งโรงงานผลิตในไทย พร้อมขายในราคาครึ่งล้านบาท ส่วนแบรนด์ไทย “ไมน์” ในเครือบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ยังไหว้ครูต่อเนื่อง และเลื่อนการทำตลาดออกไปเป็นปีหน้า 2564 (และไม่ยืนยันว่าจะมาจริงหรือไม่) โดยโชคดีที่มีข้ออ้างจากไวรัสโควิด-19

ส่วน EV นำเข้ารุ่นอื่นๆ ที่เสียภาษีนำเข้าต่างกัน คือ จีน 0% ญี่ปุ่น 20% เกาหลี 40% ส่วนประเทศอื่นๆในยุโรป 80% ทำตลาดรวมกันเกือบ 10 รุ่น ตั้งแต่ราคาไม่ถึงล้านอย่าง MG EP ไปจนถึงกว่า 10 ล้านบาท Porsche Taycan Turbo S

อย่างไรก็ตาม การเป็นรถเทคโนโลยีใหม่ยังไม่เคยมีใครทำตลาดมาก่อน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายแรกๆ ที่นำเข้า EV มาขาย ต่างลองผิดลองถูกในการตั้งราคา เช่น Nissan Leaf ราคาเปิดตัว 1.99 ล้านบาท แต่ล่าสุดกดราคาลงเหลือ 1.49 ล้านบาท โดยยอดขายรวมตั้งแต่ส่งมอบเดือนเมษายน ปี 2562 จนถึงสิ้นปี 2563 ยังไม่ถึง 200 คัน

EV แห่ลดราคาเคลียร์สต๊อก BMW i3s เหลือ 2.29 ล้าน

ส่วนรุ่นอื่นๆ ปรับราคาลงจากการเปิดตัวครั้งแรก คือ Jaguar I PACE HSE ตัวท็อป จาก 6.99 ล้านบาท เหลือ 6.5 ล้านบาท

Kia Soul EV นำเข้ามาจากเกาหลีใต้ ระบายล็อตสุดท้ายลดราคา 3.5 แสนบาท เหลือ 2.037 ล้านบาท ทำให้ปิดการขายไปเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ไม่เหนียมอายที่จะลดราคา BMW i3s ลง 1.44 ล้านบาท เหลือ 2.29 ล้านบาท ซึ่งล็อตสุดท้ายเหลือเพียง 3 คัน ก่อนที่ปี 2564 จะนำเข้าเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า iX3 จากจีน มาทำตลาด

ด้านเอ็มจี ที่ทำโปรโมชั่น ZS EV ด้วยมูลค่าแคมเปญรวมเกือบ 2 แสนบาท (ราคาเต็ม 1.19 ล้านบาท) ยอดขายยังมาเรื่อยๆ และเป็น อีวีรุ่นที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ ส่วนปี 2564 ต้องมาดูว่า MG EP ตัวถังสเตชันแวกอน ที่เปิดราคาเพียง 9.88 แสนบาทจะได้การตอบรับดีขนาดไหน ซึ่งทั้งสองรุ่นเป็นรถนำเข้าจากจีน

นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เปิดเผยว่ายอดขาย EV ในปี 2562 มีถึง 2.5% ของรถยนต์ทั่วโลก ซึ่งในยุโรปมีอัตราการเติบโต 93% จีน 17% ประเทศ อื่นๆ 23% สำหรับประเทศไทยมีนโยบายตั้งเป้าให้ xEV (ไฮบริด,ปลั๊ก-อินไฮบริด,อีวี) มีสัดส่วนการผลิต 30% ภายในปี 2573 (คาดผลิตได้ 2.5 ล้านคัน)

สำหรับประเทศไทยเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าโตขึ้นเรื่อยๆ ถึงสิ้นปี 2562 รถยนต์ไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดมียอดจดทะเบียนสะสมกว่า 1.53 แสนคัน และอีวี 906 คัน

ขณะที่ยอดจดทะเบียน EV (รถใหม่) ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.63) มีถึง 1,079 คัน โดยตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีความคึกคักมาก จากการเปิดตัว MG ZS EV

“แม้กลุ่ม EV แมสมาร์เก็ต อาจจะมีผู้เล่นไม่มาก ซึ่งหลักๆ คือ เอ็มจี นิสสัน และต่อไปจะมีเกรท วอลล์ มอเตอร์ ก็จะเป็นเทรนด์เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะราคาขายไม่ถึง 1 ล้านบาท ขณะเดียวกันต้องมีสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้า ถ้า 2 อย่างนี้มาด้วยกันระหว่างตัวรถและโครงสร้างพื้นฐาน จะส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้าเติบโตต่อได้” นายกฤษฎา กล่าวสรุป 

 

หน้า15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,639 วันที่ 27 - 30 ธันวาคม พ.ศ. 2563