นวัตกรรม ความหวังใหม่ ฟื้นฟูไทยกลับมา (7)

05 ธ.ค. 2563 | 04:10 น.

คอลัมน์เศรษฐทัศน์ โดย รศ.(พิเศษ) ดร.กฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,633 หน้า 5 วันที่ 6 - 9 ธันวาคม 2563

การพัฒนา Eco-innovation ก็คล้ายกับการพัฒนานวัตกรรมทั่วไปที่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนเงินทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในขั้นการวิจัยและพัฒนา (R&D) การสร้างและทดสอบต้นแบบ ซึ่งอาจได้ผลดีหรือล้มเหลวก็ได้ ในขณะที่หากผ่านด่านนี้ไปได้ ก็จำเป็นต้องได้รับเงินทุนสนับสนุนมากขึ้น หากต้องการขยายขนาด (Scaling up) และเริ่มทดลองไปใช้ในการทำธุรกิจจริง บทความตอนนี้จะกล่าวถึงแนวทางและข้อคิดในการดึงดูดแหล่งทรัพยากรเงินทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนา Eco-innovation

 

1) โอกาสสำหรับบริษัท

 

ปัญหาความเสื่อมโทรมด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่แผ่ขยายไปทั้งโลกนั้นทุกคนทราบดีและต้องเร่งช่วยกันแก้ปัญหา ภาคธุรกิจเองก็ต้องยอมรับว่ามีส่วนร่วมในการก่อให้เกิดปัญหานี้ด้วยเช่นกัน ในกระบวนการพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนนั้น มีคำแนะนำให้บริษัทกลับไปคลี่ Value chain หรือห่วงโซ่คุณค่าของกระบวนการผลิตและจำหน่ายสินค้าและบริการจากต้นนํ้าไปถึงปลายนํ้า 

 

และมาวิเคราะห์ดูว่าในแต่ละขั้นตอนนั้นได้ส่งผลกระทบทางลบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผูเกี่ยวข้องทั้งใกล้และไกลอย่างไร ซึ่งบริษัทที่ทำธุรกิจสามารถนำมาวางแผนกำหนดกลยุทธ์และวิธีการปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบทางลบดังกล่าว ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประหยัดนํ้า พลังงาน การลดปัญหาขยะ และการลดโลกร้อน เป็นต้น

 

แน่นอนในการลดปัญหาดังกล่าวสามารถใช้ Eco-innovation เป็นตัวช่วย ซึ่งบริษัทอาจใช้หน่วย R&D ภายในเป็นตัวช่วย หรืออาจร่วมมือกับ บริษัทภายนอกที่คิดค้น Eco-innovation ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเนื่องจากปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมเกิดขึ้นรุนแรงมากขึ้นในโลกแทบทุกพื้นที่ รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ของทางการต่างก็ตื่นตัวเข้ามาสนับสนุนให้มีการคิดค้นวิจัยนวัตกรรม Eco-innovation มากขึ้น 

 

โดยเฉพาะสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้ตั้ง Eco-innovative Startups เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็สามารถเติบโตขึ้น ขยายกิจการ และมีกำลังมากขึ้นไปช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมในระบบ 

 

หน่วยงานทางการในหลายประเทศได้จัดตั้งองค์กรภาครัฐที่ให้ความรู้และส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรม เช่น ในประเทศไทยมีการจัดตั้งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (National Innovation Agency หรือ NIA) สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอุดมศึกษา เพื่อทำหน้าที่ดังกล่าว และหน่วยงานอื่นๆ ของภาครัฐต่างก็ตื่นตัวในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรม 

 

 

นวัตกรรม ความหวังใหม่ ฟื้นฟูไทยกลับมา (7)

 

 

รวมไปถึงการให้ทุน (Funding Programmes) เกิดกิจกรรมให้ความรู้ กิจกรรม การแข่งขัน เพื่อคัดเลือกผู้คิดค้นนวัตกรรมที่ดี มีความเป็นไปได้สูง และได้รับเงินทุน และโอกาสหาผู้ร่วมทุนเพื่อไปต่อยอดต่อไป ซึ่งนับวันก็จะมีความเข้มข้น เพราะความต้องการ Eco-innovation ถูกต้องจากภาคธุรกิจมากขึ้น นอกจากความรู้ความเข้าใจและจิตสำนึกด้าน Sustainability ที่มีมากขึ้นแล้วยังถูกกดดันจากนักลงทุนที่สนใจว่าบริษัทดูแลแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างไร และด้วยวิธีการอะไร

 

บริษัท Natura ของ Brazil ที่มี ชื่อเสียงในด้านผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผลิตโดยดูแลสิ่งแวดล้อมในขณะที่ยังเป็น Startup อยู่ เคยได้รับเงินทุนสนับสนุนถึง 43 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อมาช่วยพัฒนาธุรกิจให้เติบโต เพราะ Eco- innovation ของ Natura มีความน่าสนใจดึงดูดแหล่งเงินทุนมาได้อย่างมากมาย 

 

หรือตัวอย่างบริษัท Specialized Solar Systems ใน South Africa บริษัท Multibox ของไทย KUO Industrial Group ของ Mexico ซึ่งแต่ละบริษัทมี Eco-innovation ที่โดดเด่น ก็ล้วนแต่ได้รับการสนับสนุนทั้งเงินทุนและด้านอื่นๆ จากภาครัฐ สถาบันการเงิน และบริษัทเอกชนที่มีความสนใจทั้งสิ้น อาจสรุปได้ว่าผู้ที่คิดค้น Eco-innovation ที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งยังมีอีกมากมาย และถ้านวัตกรรมนี้มีความเป็นไปได้ พัฒนาได้ในเชิงพาณิชย์จะเป็นบริษัทที่เนื้อหอมเป็นพิเศษ ที่จะดึงดูดให้มีคนเข้ามาให้ความช่วยเหลือ จะมีโอกาสทางธุรกิจมากเป็นพิเศษ

 

 

2) Green Financing

 

เมื่อกระแสการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมกำลังมาด้วยความแรง บรรดาสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารก็ต้องเริ่ม ปรับตัว เพราะหน้าที่หลักของธนาคารที่รับเงินฝาก แล้วไปปล่อยสินเชื่อให้ภาคธุรกิจนั้น ก็เริ่มเกิดคำถามว่าธุรกิจนั้นเอาเงินทุนไปเป็นทรัพยากรหนึ่งร่วมกับทรัพยากร อื่นๆ ในการผลิตสินค้าและบริการ แต่ธุรกิจได้ดูแลปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นตลอดห่วงโซ่คุณค่าอย่างไร ธนาคารกลางในประเทศต่างๆ เริ่มออกกฏเกณฑ์การดูแลสินเชื่อโดยผนวกเรื่องการพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนเข้าไป (Sustainable Finance Guidelines)

 

ในตลาดทุน ซึ่งมีสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ก็เล็งเห็นปัญหานี้เช่นกัน หน่วยงานดังกล่าวในหลายประเทศเข้าร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากภาคธุรกิจ โดยผ่านบริษัทจดทะเบียนซึ่งเป็นสมาชิก โดยกำหนดให้มีคู่มือและแนวทางปฏิบัติด้าน ESG (Environment, Social, Governance) และส่งเสริมความรู้ การให้คำปรึกษา และที่สำคัญที่สุดคือกำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูล การดำเนินธุรกิจโดยบูรณาการด้าน ESG เข้าไป (ESG Information Disclosure) เข้าไป รวมทั้งการให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักลงทุนเพื่อให้มีจิตสำนึกการลงทุนแบบมีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งจะเป็นคนคอยกดดันให้บริษัทจดทะเบียนดำเนินธุรกิจอย่างมีความระมัดระวัง และรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

 

ในต่างประเทศ เริ่มมีสถาบันการเงินที่หันมาเพิ่มหรือ Segment ตนเองให้ปล่อยสินเชื่อหรือสนับสนุนเงินทุนแก่กิจการที่ดำเนินธุรกิจแบบ “Green” เป็นพิเศษ เช่น Triodos Bank ของ Netherland จนกลายเป็นธนาคารชั้นนำในกลุ่ม “Sustainable Bank” Triodos Bank พยายามค้นหา บริษัทในลักษณะ “Eco-innovative Companies” และปล่อยสินเชื่อ แม้ว่าจะเป็นไปอย่างยากลำบากในช่วงเริ่มต้น 

 

แต่ในที่สุดเมื่อกระแสเรื่องสิ่งแวด ล้อมได้เกิดขึ้นตามมา Triodos Bank ก็สามารถเติบโตได้เป็นเท่าตัว จากผลการปล่อยสินเชื่อและลงทุนใน “Sustainability Initiatives” เช่นนี้ สถานการณ์ดังกล่าว นี้ยังเกิดขึ้นกับธนาคารหลายแห่งทั่วโลกที่มีการมุ่งเน้น “Green Financing” เช่น YES Bank ใน India CIBanco ใน Mexico Bancolombia และ Bancoldex ใน Colombia เป็นต้น

 

 

 

3) กรณีศึกษา : Three Wheels United

 

Three Wheels United (TWU) เป็น Startup สัญชาติ India ที่ทำธุรกิจปล่อยเช่าซื้อรถสามล้อเครื่อง ให้กับผู้ขับสามล้อเครื่องในอินเดีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย และเกี่ยวข้องกับชีวิตคนทั้งในเมืองและชนบท ในการช่วยให้เดินทางเกิดความคล่องตัว เป็นทางเลือกหนึ่งของคนอินเดีย ซึ่งคาดว่ามีผู้ใช้บริการไม่ตํ่ากว่า 5 ล้านคน 

 

โดยปกติรถสามล้อเครื่องที่ใช้ก็ มีสภาพเสื่อมโทรมและไม่ได้รับการดูแล ใช้เชื้อเพลิงคุณภาพตํ่าก่อให้เกิดมลพิษสูง แต่ละวันผู้ขับสามล้อเครื่องต้องทำงานถึงวันละ 12 ชั่วโมง โดยได้รับรายได้เพียงประมาณ 3 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อวันบนสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยํ่าแย่ TWU ได้พัฒนา Business Model โดยหาแหล่งเงินทุนจากธนาคารท้องถิ่น และจัดหารถสามล้อเครื่องที่มีคุณภาพและนวัตกรรมช่วยลดปัญหามลพิษในราคาที่รับได้ ทำให้ผู้ขับขี่สามล้อเครื่องสามารถเปลี่ยนรถและผ่อนระยะยาวทำให้เป็นเจ้าของรถได้ 

 

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ในที่สุดผู้ขับขี่สามล้อเครื่องมีรายได้เพิ่มขึ้น 70% เพราะลูกค้าก็ชอบด้วย ช่วยลดมลพิษด้วย เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็สามารถผ่อนรถได้ มีข้อมูลสนับสนุนว่า การคืนหนี้เงินกู้เช่าซื้อรถสามล้อเครื่องประสบความสำเร็จถึง 100%