นางสาวมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาคประจำกลุ่มลุ่มแม่นํ้า โขงของ Booking.com กล่าวว่า ผลกระทบสถานการณ์โควิดทั่วโลกทำให้เทรนด์การท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป นักเดินทางชอบความเรียบง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ขณะที่คนไทยให้ความสำคัญกับมาตรการด้านสุขภาพระหว่างการเดินทางมากที่สุดในโลก ซึ่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับนักเดินทาง โดย 80% ของนักเดินทางต้องการให้ที่พักมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ผู้เดินทางรู้สึกปลอดภัย และนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 86% จะเลือกจองเฉพาะที่พักที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการด้านสุขภาพและอนามัยไว้อย่างชัดเจน ขณะที่ 70% ของนักเดินทางต้องการให้มีเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้จองที่พักได้แบบกระชั้นชิด นอกจากนี้คนไทย 81% ยอมรับว่าเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการควบคุมความเสี่ยงด้านสุขอนามัย ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว โดยบุ๊กกิ้งเชื่อว่านวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการเดินทางจะถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ทั้งนี้ในช่วงของสถานการณ์ของโควิด ส่งผลให้ยอดการจองผ่าน Booking.com ทั่วโลกในเดือนเมษายน 2563 ลดลงกว่า 80% และในไตรมาส 3 เริ่มทรงตัวอยู่ที่ 30% ซึ่งไม่ใช่เพียงบุ๊กกิ้งแต่ทุกแพลตฟอร์มต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดเช่นเดียวกัน ซึ่งการท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยไม่สามารถชดเชยมูลค่าการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ นอกจากนี้บุ๊กกิ้งมีแพลนที่จะพัฒนา นวัตกรรมและฟีเจอร์สำหรับช่วงการระบาดของโควิด โดยมีการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาฟีเจอร์ Flexible Rate เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชอบความยืดหยุ่น แม้ว่า 30% ของผู้ใช้จะเลือกจองที่พักแบบคืนเงินไม่ได้แต่ก็ยังต้องการที่จะสามารถเปลี่ยนวันเข้าพักได้
: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,631 หน้า 16 วันที่ 29 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2563