นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ “ปตท.” (PTT) เปิดเผยว่า ปตท. เลื่อนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อส่งออกเชิงพาณิชย์ออกไปเป็นช่วงประมาณไตรมาส 2/64 จากเดิมที่คาดว่าจะดำเนินการได้ในไตรมาส 3/63 เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG HUB) ที่คาดว่าจะเริ่มเห็นปริมาณการนำเข้าและส่งออกที่คึกคักมากขึ้นในปี 65 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส-19 (Covid-19)
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคลดลง และการเจรจากับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) รวมถึงจีนตอนใต้ยังติดขัดอยู่บ้าง อีกทั้งราคานำเข้า LNG จากตลาดจร (spot) ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงประมาณ 7 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ซึ่งอาจยังไม่เหมาะสมในการทำตลาดช่วงนี้ แต่หากราคาปรับลดลงมาต่ำที่ประมาณ 3-4 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ที่คาดว่าจะเกิดในช่วงหน้าร้อนก็น่าจะจูงใจให้เกิดการนำเข้าเพื่อส่งออกได้
“ความคืบหน้าการเป็นน LNG HUB นั้น ล่าสุดมีการทดสอบการนำเข้าและส่งออกไปเรียบร้อยแล้ว โดยทุกองค์ประกอบมีความพร้อม แต่สถานการณ์ราคา spot LNG ในเวลานี้มีราคาปรับสูงขึ้น ทำให้ลุกค้าชะลอการซื้อ LNG ดังนั้น จะต้องมีการติดตามสถานการณ์ทางด้านราคาอย่างใกล้ชิด”
ส่วนการนำเข้าก๊าซ LNG ในประเทศปี 64 น่าจะมีระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5.5-5.6 ล้านตันต่อปี โดยมาจากสัญญาระยะยาวประมาณ 5.2 ล้านตัน และเป็น spot LNG ประมาณ 4-5 แสนตันทั้งจาก ปตท. และภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ ปตท. ได้นำเข้าแบบ spot ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จต้องขึ้นอยู่กับสภาพตลาด และราคาด้วยว่าเป็นอย่างไร เพื่อพิจารณาหาราคาในการนำเข้าที่เหมาะสมว่าควรจะอยู่ที่ระดับเท่าใด
อย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผลทำให้ยอดการใช้ก๊าซ LNG ปีนี้ลดลง 8-10% จากปีที่ผ่านมา โดยมีการจัดหามาจากอ่าวไทย ซึ่งมีสัดส่วนค่อนข้างคงที่ และมีที่เมียนมาร์อยู่บ้าง โดยยอด LNG ปีนี้โดยรวมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.5-5.6 ล้านตันต่อปี ซึ่งมาจากสัญญาระยะยาวประมาณ 5.2 ล้านตันต่อปี ส่วนที่เหลืออีกระมาณ 4-5 แสนตันมาจากการซื้อแบบ spot โดย ปตท. ใช้โอกาสในการที่ spot ราคาเฉลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 2.5 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำนำเข้ามา
“จากราคาดังกล่าวมีส่วนช่วยลดราคาค่าเอฟที เพราะการจัดหาพลังงานที่มีราคาถูกเข้ามา ส่วนการใช้ LNG นั้นมีปริมาณคงที่ ทั้งโรงแยกก๊าซ ในภาคอุตสาหกรรม และไฟฟ้าโดยมี่ปีหน้าปริมาณความต้องการก็น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีนี้”
นายวุฒิกร กล่าวต่อไปอีกว่า ยุทธศาสตร์ในอนาคตนั้น ปตท. จะพยายามหา LNG มาบริหารจัดการให้เพียงพอกับความต้องการใช้งาน รวมถึงให้สามารถแข่งขันได้ และสามารถตอบโจทย์รักษาการเดินเครื่องโรงแยกก๊าซในระยะยาว ส่วนการขยายในอนาคตยังมองภาพของการเติบโตในตลาดต่างประเทศ และตลาดใหม่ รวมถึงการขยายการทำพอร์ตโฟลิโอ ในเรื่องของ LNG
สำหรับโครงการท่อส่งก๊าซเส้นที่ 5 บางส่วนมีกำหนดแล้วเสร็จปลายปีนี้ และบางส่วนจะแล้วเสร็จกลางปีถึงปลายปีหน้า อย่าไรก็ดี ในเฟสแรกได้มีการเริ่มจ่ายก๊าซให้กับโรงไฟฟ้า IPP โรงใหม่ ได้แก่ Gulf SRC แล้วบางส่วนเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ต้องเรียนว่าปัจจุบัน ปตท. เริ่มเข้าไปทำตลาดในการนิคมอุตสาหกรรมที่จำหน่ายก๊าซอยู่แล้ว โดยจะเห็นว่าโรงงานใดที่ให้ความสนใจในการติดตามโซลาร์รูฟ (solar roof) ปตท. ก็จะเข้าไปนำเสนอโซลูชั่นที่เป็นการจำหน่ายก๊าซ และการจำหน่ายพลังงานทดแทนด้วย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการพลังงานของภาคอุตสาหกรรม