ผนึกกำลังเดินหน้าให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมรองรับ 5G ในอีอีซี

09 พ.ย. 2563 | 07:00 น.

กระทรวงดิจิทัล โดย ทีโอที ผนึกกำลัง สกพอ.ร่วมลงนาม MOU เดินหน้าให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม รองรับระบบ 5G เสริมความเข้มแข็งการลงทุนใน EEC ยกระดับภาคธุรกิจและความเป็นอยู่ประชาชนอย่างยั่งยืน

9 พฤศจิกายน 2563 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อรองรับระบบสื่อสารต่างๆและเทคโนโลยี 5G ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)โดย นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) โดยนายมรกต เธียรมนตรี รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2563 ที่อาคาร 9 บมจ.ทีโอที (มหาชน)

 

นายพุทธพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการใช้โครงสร้างพื้นฐานระบบโทรคมนาคมและดิจิทัล เพื่อรองรับการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี5G ที่จะช่วยกลุ่มอุตสาหกรรมลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถ การแข่งขันของประเทศ เพื่อดึงดูดนักลงทุนผู้ประกอบการทั่วโลกให้สนใจเข้าร่วมลงทุนใน EEC โดย สกพอ.ร่วมกับ ทีโอทีเตรียมความพร้อมให้บริการระบบ5Gเต็มรูปแบบแก่ภาคอุตสาหกรรมและร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชนรายอื่น ๆ ในลักษณะการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกัน (Infrastructure Sharing)เพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อนระหว่างภาครัฐกับเอกชนใช้ทรัพย์สินของรัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่เป็นการผูกขาดทางธุรกิจซึ่งทาง สกพอ.จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกการดำเนินงาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"พุทธิพงษ์"เผยศาลสั่งปิดเว็บ/โซเชียลผิดกม.อีก 209 ยูอาร์แอล

"ออปโป้" เปิดตัวสมาร์ทโฟน "OPPO A73" เคาะราคา 6,999 บาท

อัปเกรดอาวุธ อสม.ออนไลน์เปิดฟีเจอร์ใหม่ "รายงานคัดกรองสุขภาพจิต" 

"ดีอีเอส" จับมือ ปณท. ดันสินค้าชุมชน ปลุกเศรษฐกิจ 3 จังหวัดอันดามัน

 

พร้อมจัดหาโครงการลงทุนที่เกี่ยวข้อง กับ ทีโอที รวมทั้งส่งเสริมด้านสิทธิประโยชน์หน่วยงานรัฐและเอกชนที่ร่วมโครงการดังกล่าว โดยการดำเนินงานในระยะแรก ด้านพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมบริเวณเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ด้านพัฒนาชุมชนโครงการ เมืองอัจฉริยะบ้านฉาง ในพื้นที่เทศบาลตำบลบ้านฉาง จังหวัดระยองโดยทีโอที มีเป้าหมายดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และในระยะต่อไปการทำโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อรองรับระบบสื่อสารรวมถึงเทคโนโลยี 5G จะดำเนินการคู่ขนานไปกับโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ในพื้นที่ EEC

ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์ ย้ำด้วยว่า เทคโนโลยี5G เป็นนวัตกรรมสำคัญจะช่วยสนับสนุนและขยายโอกาสการสรรค์สร้างบริการดิจิทัลให้กว้างขวางและครอบคลุมตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยความเร็วสูงของสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้การใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ มีความแม่นยำสูงและความผิดพลาดน้อยที่สุดโดยเฉพาะใน
อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Robotics) และระบบการผลิตแบบอัตโนมัติ (Automation) ซึ่งจะจูงใจให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ EEC

 

รวมทั้งสามารถปรับใช้ในด้านอื่นๆ เช่น ด้านสาธารณสุขให้เข้าถึงการบริการรักษาการวินิจฉัยโรคแม่นยำ ด้านการเกษตรเพาะปลูกพืชได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นมีมูลค่าสูง เก็บรักษาได้ยาวนาน เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นต้น ซึ่งบริการ 5G จะขับเคลื่อนเทคโนโลยีดิจิทัลสู่ชุมชนครัวเรือนและระดับอุตสาหกรรม สร้างงานสร้างโอกาส ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ EEC อย่างยั่งยืน

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาบริการ 5G ในพื้นที่EEC อย่างเต็มที่ ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมเชิงพาณิชย์ สามารถต่อยอดบริการและใช้งานได้จริงในเศรษฐกิจระดับมหภาค สอดคล้องกับบทบาทของกระทรวงฯ ในการสร้างความเชื่อมั่นดึงดูดการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆและอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเข้าสู่ประเทศไทยด้วยการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนานวัตกรรมบนเทคโนโลยี 5G ของภูมิภาค

 

ผนึกกำลังเดินหน้าให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมรองรับ 5G ในอีอีซี