หลายคนเข้าใจผิดว่า ยิ่งลดหย่อนภาษีไปเท่าไหร่ ก็จะเสียภาษีน้อยลงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงนั้นขึ้นอยู่กับเงินได้และอัตราภาษีเฉพาะบุคคลด้วย โดยปัจจุบันใช้อัตราก้าวหน้าในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในปี 2563 กรมสรรพากรได้กำหนดรายการหักค่าใช้จ่ายและลดหย่อนต่างๆ ไว้ เพื่อลดภาระของยอดภาษีที่ต้องนำส่ง โดยแบ่งค่าลดหย่อนออกเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้
ตัวอย่างดังกล่าว หากมีการใช้สิทธิประโยชน์จากค่าลดหย่อน จะสามารถเสียภาษีลดลง 1,200 บาท (2,140 - 940) ซึ่งถ้าหากยังต้องการเสียภาษีน้อยลงจากเดิมอีก อาจลองพิจารณาซื้อกองทุน SSF เพิ่มเติมจากเดิมเป็น 36,000 บาท ก็จะเสียภาษีลดลงเหลือเพียง 340 บาทเท่านั้น
การจ่ายภาษี และการยื่นภาษีประจำปี
โดยปกติแล้ว นายจ้างจะหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับเงินได้ของพนักงานในแต่ละเดือนและนำส่งกรมสรรพากรให้ เมื่อครบปี นายจ้างจะออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายหรือ 50 ทวิ คือ เอกสารแสดงยอดเงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ได้หักไว้แล้วในปีภาษี และแสดงข้อมูลรายได้ว่าได้มาจากที่ใดและจำนวนเท่าไหร่บ้าง เป็นเอกสารที่ผู้มีเงินได้สามารถใช้เป็นหลักฐานในการยื่นแบบภาษีเงินได้ หรือ ภงด 90/91 ภายในสิ้นเดือนมีนาคมของปีถัดไปจากปีภาษี สามารถยื่นแบบออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ที่ กรมสรรพากร
นอกจากนี้ กรมสรรพากร ยังเอาใจมนุษย์เงินเดือนที่ไม่มีรายเสริมอื่นๆ ด้วยการเพิ่มช่องทางยื่นภาษีผ่านแอปที่สะดวก รวดเร็ว สุดๆ สามารถยื่นภาษีได้ง่ายกว่าเดิม โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
เมื่อเข้าใจในเรื่องของภาษี หลักการคำนวณและการลดหย่อนภาษีมากขึ้น การวางแผนภาษีตั้งแต่ต้นปีเพื่อพิจารณารายการลดหย่อนที่เหมาะสมกับตัวเองและทยอยซื้อตามกำลังในแต่ละเดือน จะช่วยให้การบริหารภาษีได้อย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างความมั่นคงเพิ่มเติมในรูปแบบการออมเพื่ออนาคต การคุ้มครองความเสี่ยงในด้านชีวิตและสุขภาพ และการช่วยเหลือสังคมในรูปแบบการบริจาคอีกด้วย
หากอยากซื้อกองทุน SSF เพื่อลดหย่อนภาษีปลายปี สามารถซื้อได้ง่ายๆ ผ่าน SCB Easy App ได้ทุกที่ทุกเวลา ศึกษาข้อมูลกองทุน SSF และขั้นตอนการลงทุนง่ายๆ ผ่าน SCB Easy App ได้ที่นี่
ข้อมูลที่มา : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)