กทม.เตรียมพร้อมงาน "ลอยกระทง"

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันที่ 31 ตุลาคมนี้เป็นวันลอยกระทง สำหรับกทม.ได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน เริ่มตั้งแต่ ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงโป๊ะและท่าเรือทุกแห่งที่ประชาชนจะไปลอยกระทงต้องปลอดภัย พร้อมปิดป้ายแจ้งจำนวนคนและน้ำหนักบรรทุก มีอุปกรณ์ช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น เสื้อชูชีพ  ห่วงยาง เชือก  ไฟฉาย และมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยด้วย

นอกจากนี้ยังได้จัดทีมแพทย์กู้ชีวิต และหน่วยตรวจการณ์ทางเรือตลอดลำน้ำ ตั้งแต่ช่วงสะพานพระราม 7 ถึงสะพานพระราม 9 

ขณะเดียวกัน กทม.ยังได้จัดงานเปิดตัวคลองโอ่งอ่างโฉมใหม่ในงานเทศกาลลอยกระทง "งามสะพรั่ง จันทร์ริมคลอง" ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 29-31 ต.ค.63 ตั้งแต่สะพานดำรงสถิต ถึง สะพานภาณุพันธุ์ ทั้ง 2 ฝั่งคลอง เพื่อสืบสานประเพณีลอยกระทง และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตริมคลอง

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า  งานลอยกระทงในปีนี้ กทม.ได้กำหนดจัดงานภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงวิถีใหม่ สไตล์ New Normal” เพื่อสืบสานประเพณีลอยกระทง พร้อมไปกับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง รวมถึงป้องกันโรคภัยต่างๆ ที่มักจะเกิดในฤดูหนาว

ดังนั้น ไปลอยกระทงต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค ที่สำคัญอย่าลืม ลงทะเบียนเข้างานผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” 
 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชวนคนกรุง "ลอยกระทง"ที่คลองโอ่งอ่าง

ชวนเที่ยว"ถนนข้าวสาร" 

โดยกทม.ขอความร่วมมือประชาชนใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติและย่อยสลายง่าย 1 กระทง 1 ครอบครัว หรือจะใช้วิธีลอยกระทงออนไลน์ เพื่อร่วมกันลดปริมาณขยะและย่อยสลายง่าย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยกทม.จะเร่งจัดเก็บกระทงในที่ต่างๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้กรุงเทพฯ สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยต่อไป

อีกเรื่องที่สำคัญ คือ เรื่องฟืนไฟ กทม.ได้ออกประกาศ ห้ามจุดพลุ  ดอกไม้เพลิง และห้ามปล่อยโคมลอย รวมทั้งห้ามจำหน่ายและห้ามเล่นประทัดทุกชนิด  เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดต่อชีวิต ทรัพย์สิน และเหตุอัคคีภัย ผู้ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำคุกและปรับ

สำหรับการกำหนดข้อปฏิบัติและข้อห้ามต่างๆ นั้น กทม.ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้เทศกาลลอยกระทงขาดสีสันความสวยงามหรือความสนุกสนาน แต่ตระหนักถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคนเป็นสำคัญ