ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุด หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้แสดงมุมมองบวกเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัท IBM และเน็ตฟลิกซ์
ณ เวลา 07.15 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น 132 จุด หรือ 0.46% แตะที่ 28,540 จุด
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "This Week" ของสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า แม้ขณะนี้พรรคเดโมแครตและคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงมีความเห็นที่ขัดแย้งกันในหลายประเด็นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบโควิด-19 แต่เธอมีมุมมองเป็นบวกว่า มาตรการดังกล่าวจะได้รับการผลักดันให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้
นางเพโลซียืนยันว่า เธอเองนั้นต้องการให้ร่างมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนการเลือกตั้งวันที่ 3 พ.ย. แต่การที่จะมีผลบังคับใช้ได้นั้น พรรคเดโมแครตและคณะบริหารของปธน.ทรัมป์จะต้องบรรลุข้อตกลงกันให้ได้ภายในเวลา 48 ชั่วโมงก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง
"เรากำหนดเอาไว้ว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องบรรลุข้อตกลงกันให้ได้ภายในเวลา 48 ชั่วโมงก่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. ดิฉันเองยังคงมีมุมมองบวกในเรื่องนี้ หลังจากที่เราได้เจรจาต่อรองกันเป็นเวลานาน" นางเพโลซีกล่าว
ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (16 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของสหรัฐที่ดีเกินคาด และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นในเดือนต.ค. ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า
-
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,606.31 จุด เพิ่มขึ้น 112.11 จุด หรือ +0.39%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,483.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.47 จุด หรือ +0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,671.56 จุด ลดลง 42.31 จุด หรือ -0.36%
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก นำโดยกลุ่มสาธารณูปโภค เพิ่มขึ้น 1.08% ขณะที่กลุ่มพลังงาน ร่วงลงหนักที่สุด 2.3%
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 0.1%, ดัชนี S&P500 บวก 0.2% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.8%