"เชฟโรเลต" ทำอะไร ในวันที่ไม่ขายรถยนต์ในไทย

15 ต.ค. 2563 | 01:10 น.

ภายในสิ้นปีนี้ โครงสร้างธุรกิจใหม่ของเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ประเทศไทย จะเหลือเพียงบริษัทเดียวคือ เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย หลังเต็มใจขายอาณาจักรการผลิตรถยนต์ที่จังหวัดระยอง ให้ “เกรท วอลล์มอเตอร์ส” ทุนใหญ่จากจีน

เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย จะสิ้นสุดการขายรถยนต์ใหม่อย่างเป็นทางการสิ้นปี 2563 (เหลือสต๊อกอยู่ที่ดีลเลอร์ประมาณ 200 คัน) แต่ยังมีหน้าที่ดูแลลูกค้า รักษามาตรฐานดีลเลอร์ เน้นบริการหลังการขาย และขายอะไหล่ บนเป้าหมายบริษัทต้องมีกำไร และคู่ค้าอยู่รอด

“ฐานยานยนต์” ร่วมสัมภาษณ์ “วันชนะ อูนากูล” ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายบริการหลังการขายและตลาดส่งออก เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่ต่อไปจะเป็นแม่ทัพใหญ่ดูแลธุรกิจของ เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย

 

วันชนะ อูนากูล

โครงสร้างธุรกิจใหม่

ภาพรวมของธุรกิจบริการหลังการขาย เรายังดำเนินการต่อไป เพื่อดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด ผ่านศูนย์บริการ (เดิม) ที่ยังอยู่ครบ ด้วยการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กม. งานซ่อมบํารุง งานวิเคราะห์ งานรีคอล ทีมสนับสนุนด้านเทคนิค ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 1734 บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม ศูนย์ฝึกอบรบ รวมถึงการบริหารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า ที่บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

เน้นบริการหลังการขายและอะไหล่

เราเซ็นสัญญากับผู้จำหน่าย(ดีลเลอร์) ในการเป็นศูนย์บริการดูแลลูกค้าครบทุกราย จำนวน 82 แห่งทั่วประเทศ และมีอีก 4 แห่งที่เป็น 2S เดิม ดูแลบริการหลังการขายและอะไหล่อยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจใหม่ Authorized Service Outlet (ASO) หรือศูนย์บริการแบบสแตนอโลน ดูแลรถยนต์ทุกยี่ห้อพร้อมอะไหล่แท้จาก
เชฟโรเลต และเอซีเดลโก้ (ACDelco)

“ธุรกิจศูนย์บริการยังสามารถทำกำไรได้ ตอนนี้ดีลเลอร์ 82 แห่งยืนยันจะดูแลลูกค้าต่อไป และในจำนวนนี้อาจจะเปิดเป็น Authorized Service Outlet ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้คู่ค้าผู้ลงทุน หลังจากเชฟโรเลต ยุติการขายรถในไทย”

ธุรกิจ Authorized Service Outlet

ตอนนี้เรามี ASO จำนวน 6 แห่ง โดยเพิ่งเปิดที่ จ.ร้อยเอ็ดและ จ.ลำปาง และมีแผนขยายไปอีกหลายจังหวัด โดยให้สิทธิ์ดีลเลอร์เชฟโลเลตเดิมตัดสินใจลงทุนก่อน

สำหรับการลงทุนใช้เงินประมาณ 3-4 ล้านบาท(ไม่รวมที่ดิน) รองรับปริมาณรถ 200 คันต่อเดือน หากนับเฉพาะรถยนต์เชฟโรเลตที่ต้องนำรถเข้ามาดูแล ภายใต้เงื่อนไขการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กม. หลังเปิดดำเนินงาน 1 ปีสามารถคืนทุนได้ หรือถ้านับรถยี่ห้ออื่นๆ ที่เข้ามาใช้บริการด้วยจะคืนทุนเร็วขึ้น

คลังอะไหล่ที่บางปะอิน

ถือเป็นคลังอะไหล่ที่ใหญ่มาก บนพื้นที่รวม 18.5 ไร่ มีมูลค่าสินค้าคงคลังประมาณ 900 ล้านบาท จากอะไหล่ 26,910 รายการ ซึ่งเราต้องบริการเรื่องซัพพลายเชน โลจิสติกส์ และส่งออกอะไหล่ไปยังคู่ค้าอีก 30 ประเทศ

“เรามีช่องทางการขายอะไหล่ เอซีเดลโก้ ทั่วประเทศกว่า 3,000 ร้านค้า ผ่าน 5 ดิสทริบิวเตอร์ และต้องส่งออกไปต่างประเทศ ล่าสุดเพิ่งคุยจบกับดิสทริบิวเตอร์ที่กัมพูชา ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เช่น เวียดนาม ยังมีโอกาสส่งออกอะไหล่ได้อีกหลายรายการ คาดว่ารายได้จากการขายอะไหล่ในปีนี้อยู่ที่ 200 ล้านบาท แบ่งเป็นขายในประเทศ 120 ล้านบาท”

ทีมงานมืออาชีพไม่ทิ้งลูกค้า

เรามีระบบการจัดการอะไหล่โดยทีมงานมืออาชีพ รองรับรถยนต์เชฟโรเลตทั้งรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ ครอบคลุมทุกชิ้นส่วนของรถยนต์

“แม้เชฟโรเลตกำลังจะยุติการขายรถยนต์ในไทย แต่เรายังมุ่งมั่นที่จะให้บริการหลังการขาย และช่วยเหลือเจ้าของรถยนต์เชฟโรเลต อย่างต่อเนื่องทั้งในวันนี้และในอนาคตข้างหน้า” 

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,618 วันที่ 15 - 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563