“เชียงคาน”-“ในเวียง”ขึ้นแท่น 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลกปี 63

06 ต.ค. 2563 | 14:05 น.

“พิพัฒน์” เผย "เชียงคาน"-"ในเวียง" ผ่านฉลุย ขึ้นแท่นสุดยอด 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลก ปี 2563 ครั้งแรกของประเทศไทย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคานจังหวัดเลย และ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ทั้งสองแหล่งผ่านเกณฑ์คัดเลือก ได้รับการจัดอันดับบรรจุเป็นแหล่งท่องเที่ยว TOP 100 ประจำปี 2563 ครั้งแรกของประเทศไทยหลังจากมีการปรับปรุงเกณฑ์การตัดสินที่เข้มงวดขึ้น 

              “ตนได้รับรายงานจากองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. ถึงผลประกาศการจัดอันดับ 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก หรือ Sustainable Destinations TOP 100 ดังกล่าว ซึ่งประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับครั้งนี้คือ ได้สร้างการรับรู้ในแบรนด์หรือชื่อเสียงของแหล่งท่องเที่ยวรอง นักท่องเที่ยวต่างชาติจะได้รู้จักและเข้าสู่รายชื่อการเป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทางระดับคุณภาพ”

              นายชูวิทย์  มิตรชอบ รักษาการแทนผู้อำนวยการ อพท.  กล่าวว่า เชียงคาน จังหวัดเลย และในเวียง จังหวัดน่าน  อพท. ได้พัฒนาโดยใช้เกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ GSTC ควบคู่ไปกับการนำ 4 นโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  ได้แก่ ความปลอดภัย ความสะอาด ความเสมอภาคเป็นธรรม และความยั่งยืน 

“เชียงคาน”-“ในเวียง”ขึ้นแท่น 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลกปี 63

รวมถึงแนวนโยบายการบริหารงานของ นายอนันต์  ชูโชติ ประธานกรรมการ อพท. เข้าไปพัฒนาในรูปแบบบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาคี ทั้งส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน และภาคเอกชน ทำให้เกิดความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมในครั้งนี้ และนับเป็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมอีกขั้นหนึ่งของภารกิจ อพท. ในด้านการพัฒนาสู่ความยั่งยืน

สำหรับ TOP 100 หรือ Sustainable Destinations TOP 100 เป็นอันดับที่มอบให้แก่แหล่งท่องเที่ยวที่มีความพร้อมในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จัดโดยหน่วยงานระดับโลก Green Destinations Foundation ประเทศเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับคณะผู้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ITB (InternationTourism Borse) กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

              ทั้งนี้  เกณฑ์การตัดสินแหล่งท่องเที่ยวแบ่งเป็นคะแนนจากการดำเนินการตามเกณฑ์บังคับ 30 ข้อและคะแนนจากการนำเสนอ Good Practice Story โดยในส่วนของ Good Practice Story แหล่งท่องเที่ยวต้องสามารถบอกเล่าหรือแสดงถึงเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ต้องการจะพัฒนา  แสดงถึงการใช้นวัตกรรม หรือการนำนวัตกรรม หรือแนวทางปฏิบัติที่เคยมีอยู่แล้ว มาปรับใช้ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน และสุดท้ายแหล่งท่องเที่ยวนั้นจะต้องสามารถเป็นกรณีศึกษาที่ดีให้แก่แหล่งท่องเที่ยวอื่น สามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้ต่อได้ 

“เชียงคาน”-“ในเวียง”ขึ้นแท่น 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลกปี 63

              ดังนั้นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการบรรจุสู่ Sustainable Destinations TOP 100 เป็นการแสดงให้เห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวนั้น มีคุณภาพพอที่จะดึงดูดกลุ่มลูกค้าคุณภาพ มีการกระจายรายได้ให้คนท้องถิ่น มีการปกป้องประเพณีวัฒนธรรมวิถีชีวิต และปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม ผู้ไปเที่ยวก็สบายใจ ชุมชน ประชากรที่อาศัยในแหล่งท่องเที่ยวก็สบายใจ

อย่างไรก็ตามทั้งเชียงคาน จังหวัดเลย  และในเวียง  จังหวัดน่าน ทั้ง 2 แหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว มีจุดเด่นคือความเข้มแข็งทางด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต เมื่อ อพท. ได้นำแนวทางการปฏิบัติของเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก ประกอบด้วย 4 มิติ ได้แก่ มิติด้านการบริหารจัดการความยั่งยืนในแหล่งท่องเที่ยวซึ่งรวมถึงความปลอดภัย ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ มิติด้านสังคม-เศรษฐกิจ ที่ต้องเติบโตไปพร้อมกัน  มิติด้านวัฒนธรรม มีความงดงามในแบบวิถีชีวิตและมีคุณค่าของการสืบสาน และมิติทางด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ที่นอกจากการท่องเที่ยวจะใช้อย่างคุ้มค่า แล้วยังต้องเกิดการฟื้นฟูและรักษาให้คงอยู่ต่อไป  

              นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ในเชิงการบริหารประเทศ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวสู่รางวัล Sustainable Destinations TOP 100 เป็นการตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ ในเรื่องของการสร้างระบบนิเวศท่องเที่ยว ซึ่งคำว่านิเวศในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าระบบนิเวศธรรมชาติ แต่หมายถึงสภาพแวดล้อมโดยรวมของแหล่งท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืน ทั้งในเรื่องภูมิทัศน์ ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม การปกป้องวัฒนธรรม การกระจายรายได้ที่เป็นธรรม รวมไปถึงกฎหมาย ข้อบังคับต่างๆ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้สอดรับกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และอยู่ในเกณฑ์ของ TOP 100 ทั้งหมด

              นอกจากนี้  ยังเป็นเรื่องใกล้ตัวของคนไทยอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาทุกคนเคยได้ยินแต่คำว่าท่องเที่ยวยั่งยืน  แต่ไม่มีหลักเกณฑ์อะไร มีเพียงแค่คำพูดที่เป็นนามธรรม ดังนั้น TOP 100  คือการตอบโจทย์ของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม วัดผลได้ มีแผนงานชัดเจนว่าหากเราต้องการให้แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยมีความยั่งยืนจะต้องทำอย่างไร

“อพท. จะนำความสำเร็จครั้งนี้ เป็นต้นแบบขยายผลไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นที่ดูแลรับผิดชอบทั้งในพื้นที่พิเศษตามมติคณะรัฐมนตรี และพื้นที่อื่นที่ได้รับมอบหมาย โดยจะนำแหล่งท่องเที่ยวที่ผ่านกระบวนการพัฒนาของ อพท. เสนอเข้าสู่การจัดอันดับ TOP 100 อย่างน้อยปีละ 1 แหล่ง” 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

“อพท.” ดัน 6 พื้นที่เข้า Top 100 ดึงท่องเที่ยวไทยขึ้นแท่นมาตรฐานยั่งยืน

อพท. ผันผลิต หน้ากากผ้าพื้นเมือง สร้างรายได้เสริมให้ชุมชน

อพท. ชูวัตถุดิบท้องถิ่นรังสรรค์เมนูใหม่สร้างแหล่งท่องเที่ยวชุมชน