“กลาโหม” สั่งเข้มการข่าวหลังเหตุป่วนใต้

2 ตุลาคม 2563 พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดขบวนรถทหาร ร.15 พัน 1 ที่เดินทางไปสับเปลี่ยนกำลัง ที่ จ.ปัตตานี จนมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวน 1 นาย ว่า ในส่วนของกระทรวงกลาโหม ได้สั่งกำชับเป็นพิเศษให้ระมัดระวังในช่วงของการสับเปลี่ยนกำลังพล และเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้มีการกำชับให้ทุกส่วนกำกับดูแลการปฏิบัติให้มีความปลอดภัย ส่วนที่คนร้ายใช้ช่วงของการสับเปลี่ยนกำลังพลเป็นช่องโหว่ในการก่อเหตุ นั้น เมื่อช่วงเช้าได้มีการสั่งการแม่ทัพภาคที่ 4 ให้มีความเข้มงวดในเรื่องของการข่าว
       

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กลาโหม สยบ "ข่าวลือรัฐประหาร"ชี้เป็นข่าวเท็จ

"กลาโหม"ใจป้ำคืนเงินรัฐสู้โควิด 1.77 หมื่นล้านบาท

กลาโหมไทยผลักดันฝึกร่วม "ศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน" รับมือโควิด-19 รอบสอง

กลาโหมเร่งหาสถานที่กักตัว รับคนไทยกลับจากตปท.400คน/วัน 

ส่วนที่กองทัพภาคที่ 4 จะต้องดูแลการเข้า-ออกบริเวณชายแดน โดยเฉพาะการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รวมถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ซึ่งทำให้ต้องใช้กำลังพลเป็นจำนวน นั้น ทางกระทรวงกลาโหม ได้มีการวางแผนจัดกำลังพลในการสกัดกั้นป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค-19 รวมถึงการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่อยู่แล้ว

พล.อ.ชัยชาญ ยังกล่าวถึงกรณีสังคมมีความเป็นห่วงที่กองทัพบกเตรียมส่งกำลังพล จำนวน 189 นาย ไปร่วมการฝึกกองร้อยทหารราบฝึกผสมไทย-สหรัฐ ที่รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 3 ต.ค. – 1 พ.ย. 2563 ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสโควิค-19 ได้ ว่า เป็นพันธกิจของสหประชาชาติที่เป็นการปฏิบัติงานร่วมกันในเรื่องของสันติภาพซึ่งได้มีมาตรการในการประมาทระวังอยู่แล้วรวมถึงมาตรการในการเดินทางกลับตามที่ ศบค. กำหนดไว้ เช่นกับการส่งกำลังพลกองทัพบกไปร่วมการฝึกในครั้งนี้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกองทัพบกในการชี้แจงรายละเอียด

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 ตุลาคมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมว่ามีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว โดยขอให้การชุมนุมอยู่ในกรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าเป็นห่วงเรื่องความรุนแรงหรือไม่ที่จะมีการชุมนุมยาว 7 วัน 7 คืน