ผ่ายุทธศาสตร์สร้าง”อาลีบาบา”เติบโต5ปีข้างหน้า

30 ก.ย. 2563 | 10:35 น.

”อาลีบาบา”เผยยุทธศาสตร์สร้างเติบโต5ปีข้างหน้า พร้อมโชว์ข้อมูลฐานะการเงิน และการลงทุน ในงาน Investor Day 2020 

อาลีบาบา กรุ๊ป ได้จัดงาน Investor Day 2020 สำหรับนักลงทุนซึ่งมีผู้บริหารเบอร์ต้นๆจากหลากหลายธุรกิจของอาลีบาบาเข้าร่วมบรรยายเนื้อหาที่สำคัญของงาน อาทิโอกาสการขยายการเติบโตทางยุทธศาสตร์ใน 5 ปีข้างหน้า โดยแดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอ รวมไปถึงข้อมูลด้านการเงินและการลงทุนจากแม็กกี้ วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน หัวข้อสำคัญของการบรรยายในปีนี้ได้แก่ กลยุทธ์ระยะยาวของอาลีบาบาที่เน้นในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทในการผลักดันการเติบโตที่มั่งคั่งและยั่งยืนในแต่ละธุรกิจภายในอีโคซิสเต็ม

แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอ อาลีบาบา กรุ๊ป  กล่าวว่าเราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นโอกาสทางประวัติศาสตร์ที่อาลีบาบาสามารถอธิบายได้ดีที่สุด เส้นทางของบริษัทฯ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เราอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัล การผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีและการค้าให้ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้ง่ายจากทุกที่เป็นไปได้”

ผ่ายุทธศาสตร์สร้าง”อาลีบาบา”เติบโต5ปีข้างหน้า

กลยุทธ์การเติบโต 11 ประการที่เกี่ยวกับเครื่องมือการสร้างการเติบโต 3 ประการ

1. การบริโภคภายในประเทศจีน: อาลีบาบาจะขยายการจำนวนผู้ใช้แพลตฟอร์มเศรษฐกิจดิจิทัลโดยการเพิ่มสินค้าในหมวดหมู่ของผู้บริโภคและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจากผู้บริโภค โดยการใช้ consumer insight เพื่อพัฒนาสินค้าในหมวดหมู่ใหม่นอกจากนี้ อาลีบาบาจะยังพัฒนารูปแบบธุรกิจรีเทลออนไลน์และออฟไลน์พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของแอพอาลีเพย์ให้อยู่ เช็คเอาท์และเช็คอินสินค้าแบบดิจัทัล

2. คลาวด์คอมพิวติ้งและดาต้าอัจฉริยะ: การทำงานร่วมกันระหว่างโซลูชันคลาวด์และดาต้าอัจฉริยะบนแพลตฟอร์มการค้า ระบบ ABOS หรือระบบปฏิบัติการทางธุรกิจจะช่วยส่งเสริมแบรนด์ให้บรรลุการบริหารงานทางดิจิทัลแบบ end-to-end อาลีบาบามีแผนการที่จะเปลี่ยนโฉมโลจิสติกส์ซัพพลายเชนทั้งระบบให้มีความเป็นดิจิทัลและอาศัยคลาวด์ในการอัพเกรตให้ระบบไอทีพื้นฐานกลายเป็นคลาวด์ทั้งหมด ใช้ระบบปฏิบัติการคลาวด์เสริมศักยภาพของภาคส่วนที่ใช้เทคโนโลยีรูปแบบดั้งเดิม

3.กลยุทธ์ระดับโลก: อาลีบาบามุ่งขยายดิจิทัลอีโคซิสเต็ม ไปสู่ตลาดโลกที่ผู้บริโภคและธุรกิจมีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น

ด้านแม็กกี้ วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่าเราสามารถมีเครื่องมือสร้างการเติบโตได้หลายช่องทางเพราะเรามีการพัฒนานวัตกรรมและลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่ออนาคต ในขณะที่บริษัทอื่นๆ อาจจะทำงานเพื่อผลระยะสั้นในไตรมาสหน้าแต่เราทำงานเพื่อผลในอีก 3 หรือ 5 ปีข้างหน้าและมีการตั้งเป้าหมายระยะยาว 10 และ 15 ปี

ผ่ายุทธศาสตร์สร้าง”อาลีบาบา”เติบโต5ปีข้างหน้า

ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการเงินและการลงทุน:

 

·         สเกลและการเข้าถึงที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยจำนวนผู้ใช้ทั่วโลกของอาลีบาบา กรุ๊ปต่อปีมากกว่า 1 พันล้านราย เพิ่มขึ้นมากกว่า 140 ล้านคนในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2563

 

·         รายได้ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลแซงหน้าคู่แข่งระดับโลก (Amazon, Tencent, Facebook, Microsoft, Google) – รายได้อยู่ที่ 549,000 หยวน (ประมาณ 2,552,840 บาท) ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2563 เพิ่มขึ้น 33.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ใหม่

 

·         อาลีบาบาขับเคลื่อนการบริโภคขอบประเทศจีนโดยมียอดขายออนไลน์ที่ 7.3 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 33.9 ล้านล้านบาท) ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งคิดเป็น 18 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรีเทลทั้งหมดของประเทศจีน (เพิ่มจาก 10% ในปี 2558)

 

·         การใช้จ่ายของผู้บริโภคและการที่ผู้บริโภคไว้ใจแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นในระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกันของเครื่องมือในแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มการใช้งานของผู้บริโภค การใช้จ่ายของผู้บริโภคบนรีเทลมาร์เก็ตเพลสของประเทศจีนเฉลี่ยต่อคนต่อปีคิดเป็น 9,000 หยวน (ประมาณ 41,853 บาท) เราสามารถรักษา 98 เปอร์เซ็นต์ของฐานลูกค้าที่ใช้จ่ายระดับสูง (มากกว่า 7,000 หยวนหรือประมาณ 32,553 บาท) และ 96 เปอร์เซ็นต์ของฐานลูกค้าที่ใช้จ่ายระดับปานกลาง (ตั้งแต่ 2,000-7,000 หยวน ประมาณ 9,300-32,553 บาท) ซึ่งมากกว่าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นในจีน ผู้ที่ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลของอาลีบาบา 5 ตัวหลัก (AutoNavi, เถาเป่า, เอ้อเล่อหม่า, UC Browser, โหยวคู้) ใช้แพลตฟอร์มถึง 27 วันต่อเดือน เทียบเคียงกับโซเชียลแพลตฟอร์มแถวหน้า

 

·         เพิ่มการสร้างรายได้อันเนื่องมาจากคุณค่าที่ร้านค้ามอบให้แก่ผู้บริโภค โดยมีอัตราค่าธรรมเนียม (take rate) ที่ 4.5 เปอร์เซ็นต์ในเดือนมิถุนายน 2563 (เพิ่มขึ้นจาก2.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2557 และ3.3 เปอร์เซ็นต์ในปี 2560)

 

·         อาลีบาบา คลาวด์คาดการณ์ว่าจะได้กำไรและไช่เหนียวจะมีกระแสเงินสดเป็นบวกในปีงบประมาณ 2564

 

·         อาลีบาบามีสถิติของธุรกิจด้านนวัตกรรมและจะลงทุนด้านเทคโนโลยีและR&Dอย่างต่อเนื่องโดยการสร้างกระบวนการทางศีลธรรมที่ใช้การหมุนเวียนของกระแสเงินสดจาก core commerce เพื่อนำมาลงทุนและบ่มเพาะธุรกิจใหม่