อคส.เตรียมจับมือการบินไทย ผลิต‘อาหารว่าง’สร้างรายได้ใหม่

เป็นกระแสร้อนแรงสำหรับองค์การคลังสินค้า (อคส.)ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากับความไม่ชอบมาพากลการทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางกับบริษัทเอกชนที่มีมูลค่าสูงกว่า 1.12 แสนล้านบาทที่พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง อคส. รักษาการผู้อำนวยการอคส. ได้ลงนามว่าจ้าง บริษัทการ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ที่เพิ่งตั้งบริษัทมาได้ไม่กี่เดือนแต่มารับงานใหญ่ เป็นเหตุให้เจ้าตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและถูกโยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้อคส.ยังได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องเรื่องดังกล่าวต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานฉ้อโกง และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้อายัดเงินคํ้าประกันซื้อสินค้า 2,000 ล้านบาท และตรวจสอบเส้นทางการเงิน และได้บอกยกเลิกสัญญา

 ผู้บริหาร อคส.ยังได้ไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อร้องเรียนถึงการใช้อำนาจหน้าที่ในทางทุจริต และเรื่องยิ่งมีความสลับซํ้าซ้อนมากยิ่งขึ้น ล่าสุดมีตัวละครโผล่มาอีก 7 บริษัทที่ระบุมีสัญญาซื้อขายสินค้าถุงมือยางล่วงหน้ากับ อคส. ที่ร้องเรียนจะเอาผิดกับ อคส.หากไม่ส่งมอบสินค้าตามสัญญาจำนวน 826 ล้านกล่อง มูลค่าสินค้ากว่า 1.15 แสนล้านบาท ซึ่งแต่ละเรื่องถือเป็นงานหนักของผู้บริหาร อคส.ชุดปัจจุบันที่ต้องเร่งสางปัญหา แต่อีกด้านหนึ่งแง่ธุรกิจของ อคส.ยังต้องดำเนินต่อไป

 นายอัศวิน เริงวิจิตรา ประธานสหภาพ อคส.เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าสหภาพฯ เองไม่ได้นิ่งนอนใจมีการติดตามเรื่องดังกล่าวกับผอ.อคส.คนใหม่อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นเรื่องที่พนักงานทุกคนมีความเป็นห่วงและกังวลใจ เงินที่จ่ายไปมีมูลค่าสูง ซึ่งผอ.อคส.รับปากว่าจะติดตามและชี้แจงกับพนักงานอย่างตรงไปตรงมา 

 อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นผู้บริหารอคส.เองโดยเฉพาะนายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการอคส. คนใหม่ยอมรับว่าหนักใจ เพราะมีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำให้อคส.เป็นหน่วยงานที่มีรายได้จนสามารถหาเลี้ยงตนเองได้ แต่เมื่อเจอปัญหาเช่นนี้ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย สำหรับแผนการหารายได้ของอคส.นั้นประธานบอร์ดอคส.มีนโยบายในการผลักดันให้มีการจำหน่ายข้าวถุงผ่านระบบออนไลน์มากขึ้นทั้งตลาดในและต่างประเทศ เน้นตลาดกลาง-ล่าง โดยชูความได้เปรียบความเป็นข้าวพรีเมียมในราคาที่ผู้บริโภคสามารถซื้อได้ในราคาถูก เช่น ข้าวหอมมะลิ  ข้าวขาวคัดพิเศษ  ข้าวเส้าไห้  ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เป็นต้น 

แหล่งข่าวจากอคส. เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า อคส.ยังเตรียมร่วมมือกับการบินไทย ในส่วนของครัวการบินไทยในการเป็นพาร์ทเนอร์การผลิตและจำหน่ายสินค้า จากการบินไทยมีจุดแข็งในเรื่องของอาหาร และเบเกอรี่ ที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ โดยอคส.มีแผนจะให้การบินไทยผลิตอาหารว่าง/อาหารเบรก ให้ภายใต้แบรนด์ “อิ่มความสุข” เบื้องต้นจะเป็นพวก พัฟ แอนด์พาย เป็นต้น ซึ่งจะเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ให้กับอคส. นอกเหนือจากการจำหน่ายข้าวถุง รวมถึงรายได้จากการเช่าคลังสินค้าที่ไม่เพียงพอหล่อเลี้ยงพนักงานที่มีกว่า 400 คนได้

  “โครงการนี้ผ่านความเห็นชอบจากผอ.อคส.คนเก่าแล้ว สามารถดำเนินการได้เลย  หลังจากนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการที่อคส.ตั้งขึ้น เพื่อกำหนดรายละเอียดทั้งแผนระยะสั้น กลาง ยาว และราคา รวมถึงเป้ารายได้ที่จะเข้ามา”