พื้นบ้านเดือด ชิงตัวผู้ต้องหากลางทะเล

วันที่ 8 ก.ย.63 ศรชล.ภาค 2 โดย กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณาบริเวณอ่าวบ้านดอน จว.สุราษฎร์ธานี รายงานผลการดำเนินการกรณีชาวประมงพื้นบ้านล้อมเรือเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปล่อยผู้กระทำผิดกฎหมาย ดังนี้ ตามที่กองอำนวยการร่วมฯ ได้รับแจ้งมีเรือประมงพื้นบ้านหลายลำทำประมงผิดกฎหมายบริเวณ อ.ไชยา นั้น กองอำนวยการร่วมฯ ได้ประสาน กก.6 บก.รน. และ ปม.จว.สฎ. บูรการกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมเรือที่ทำการประมงผิดกฎหมาย (เรือคราดปลิงลูกบอล/สัตว์สงวน/คราดน้ำตื้น) โดยการนำเรือ รน.517 เรือ speedboat จาก กก.6 บก.รน. และเรือตรวจการณ์ประมง จาก ปม.จว.สฎ. โดย กองอำนวยการร่วมฯ จัด เรือตรวจการณ์ลำน้ำ (SOC-R) 2 ลำ และ เรือจู่โจมลำน้ำ (AB) 2 ลำ เข้ารักษาความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงาน

ผลการปฏิบัติ : ตรวจพบ/จับกุม รปม.ที่กระทำผิดกฎหมาย จำนวน 1 ลำ พร้อมผู้กระทำผิด จำนวน 3 คนจึงควบคุมเรือและของกลางไปที่ท่าเรือ กก.6 บก.รน. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ขณะควบคุมเรือและของกลางถึงบริเวณทุ่นหมายเลข 5 ปากร่องน้ำตาปี ได้มีชาวประมงพร้อมเรือ จำนวนประมาณ 30 ลำ เข้าล้อมเรือเจ้าหน้าที่เพื่อขัดขวางไม่ให้ จนท. ควบคุมเรือของกลางไปดำเนินคดี และยื่นข้อเรียกร้อง ต่อ ปจ.สุราษฎร์ธานี ให้ผ่อนผันการคราดหอยเป็นการทำประมงถูกกฎหมาย ให้ละเว้นการจับกุมในครั้งนี้ และให้ย้าย จนท.ปม.จว.สุราษฎร์ธานี จำนวน 1 นาย ออกนอกพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องได้

เวลา 14.00 น. จนท.จากกองอำนวยการร่วมฯ กก.6 บก.รน. และ ปม.จว.สฎ. ถอนกำลังกลับที่ตั้งปกติ โดยไม่สามารถควบคุมผู้กระทำผิดพร้อมเรือของกลางมาดำเนินคดี ณ กก.6 บก.รน. ได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกภาพผู้กระทำผิด และวัตถุพยานเรียบร้อย สามารถนำไปดำเนินคดีตามกฎมายต่อไปได้

ทั้งนี้ชาวประมงพร้อมเรือ จำนวนประมาณ 30 ลำ ที่ล้อมเรือเจ้าหน้าที่ได้นำเรือไปจอดปิดปากร่องน้ำตาปี เพื่อร้องเรียนต่อ ผวจ.สุราษฎร์ธานี แต่เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ จึงได้ยุติการปิดปากร่องน้ำตาปี ในเวลา 16.00 น. ซึ่ง กองอำนวยการร่วมฯ จะติดตามความคืบหน้าและรายงานให้ทราบต่อไป