ครม.ไฟเขียวแก้กฎหมายe-Service

08 ก.ย. 2563 | 09:16 น.

ครม.ไฟเขียวแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการให้บริการรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ อำนวยความสะดวกภาคเอกชนและประชาชน

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีหรือ ครม.มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์(e-Service) ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจแบบครบวงจรให้แก่ภาคเอกชนและประชาชน ส่งผลต่อการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจในประเทศไทยของธนาคารโลก โดยมีแนวทางที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.)เสนอให้หน่วยงานดำเนินการแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบให้เอื้อต่อการให้บริการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังนี้คือ

แนวทางแรก ให้หน่วยงานกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการขออนุญาต  สถานที่ยื่นคำขอ การต่ออายุใบอนุญาต  รวมถึง การขอรับใบแทนในอนุญาตกรณีชำรุด เสียหายหรือสูญหาย โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อีกวิธีหนึ่ง นอกเหนือจากช่องทางปกติ และให้ถือว่ามีผลโดยชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกัน

 

แนวทางที่สอง ให้หน่วยงานกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการชำระค่าธรรมเนียมในการขออนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และให้หน่วยงานต้องจัดทำใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์(e-Receipt)ด้วย

แนวทางที่สาม ให้หน่วยงานกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สำหรับการลงลายมือในเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

แนวทางที่สี่ ให้หน่วยงานกำหนดหลักเกณฑ์ในการแจ้งผลการพิจารณาและการรับใบอนุญาต หรือหนังสือรับรองโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์(e-Certificate) โดยให้หน่วยงานแจ้งผลทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

แนวทางที่ห้า เรื่องการระบุให้ต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานประกอบการ ส่วนนี้ให้แก้ไขโดยใช้ข้อความต่อไปนี้แทนข้อความเดิมในกฎหมาย “ให้ผู้รับอนุญาตเตรียมใบอนุญาตหรือเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องซึ่งสามารถแสดงถึงการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตาม” เทียบเคียงได้กับการแสดงใบอนุญาตขับขี่ทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสำเนาภาพถ่าย

นอกจากนี้ยังได้กำหนดแผนการดำเนินการแก้ไขกฎหมายไว้ด้วยดังนี้คือ ในส่วนของประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งที่เป็นอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการที่จะแก้ไขได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากครม. ให้หน่วยงานดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน หลังจากครม.มีมติเห็นชอบ  ขณะที่กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับที่ต้องขอความเห็นชอบจากครม.ก่อนนั้น ให้แก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ส่วนกฎหมายที่เป็นพ.ร.บ.ให้สำนักงานก.พ.ร.เสนอแก้ไขต่อคณะกรรมการพัฒนากฎหมาย  สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยเชิญหน่วยงานมาชี้แจงและปรับแก้กฎหมายเพื่อเสนอต่อครม. และหลังจากแก้พ.ร.บ.สำเร็จ ให้แก้ไขกฎหมายลำดับรองให้สอดคล้องภายใน 3 เดือน นับแต่พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้

ทั้งนี้ก.พ.ร.ได้เสนอว่า ในจำนวนกฎหมายที่เป็นอุปสรรค 84 ฉบับ มีอยู่จำนวน 23 ฉบับของหน่วยงานนำร่องที่มีความพร้อมอยู่แล้ว หากแก้ไขกฎหมายจะสามารถให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ พร้อมกันนี้ครม.ได้มีมติให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน  กระทรวงพาณิชย์  กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ  แก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ครม. อนุมัติจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ 2.6 แสนราย

ครม.เห็นชอบเร่งส่งออกน้ำมันปาล์ม 3 แสนตัน ลดส่วนเกินในประเทศ 

ครม.เคาะงบ 70 ล้าน จ่าย "บำเหน็จความชอบ" จนท.ปราบยาเสพติด

“ม็อบแท็กซี่” ยื่น 6 ข้อเรียกร้องรัฐบาล