วันนี้เป็นวันอังคารที่ 8 กันยายน เข้าสู่ 60 วันในการหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ในประเทศเมียนมา ที่เมืองย่างกุ้งคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น ทั่วเมืองและในโลกออนไลน์ เราจะเห็นธงของพรรคต่างๆ โดยเฉพาะของพรรค NLD กันเต็มบ้านเต็มเมือง ธงดังกล่าวขายหมดเกลี้ยงทุกโรงงาน เข้าสู่ท้องตลาดหมดตั้งแต่สองวันก่อน ทำให้บรรยากาศของการเลือกตั้ง เริ่มเด่นชัดขึ้น
ที่ประเทศเมียนมาการหาเสียงเลือกตั้ง จะไม่เหมือนที่ประเทศอื่นๆ แต่ละประเทศจะมีป้ายหาเสียงที่แตกต่างกันออกไป ผมเองเคยอยู่ที่ไต้หวันและญี่ปุ่นมาก่อน จึงเห็นการหาเสียงมาแล้วทั้งไทย ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเมียนมา มีที่ประเทศเมียนมานี่แหละที่หาเสียงน่ารักมาก เขาจะใช้ธงเป็นสัญญาลักษณ์ของพรรคการเมืองในการหาเสียง โดยจะติดกันตามบ้านเรือนและรถยนต์ ยานพาหนะต่างๆ ไม่มีป้ายหาเสียงเลอะเทอะลูกหูลูกตาเหมือนบางประเทศ ก็ดีไปอย่างนะครับ แต่พอการเลือกตั้งผ่านไปก็เก็บกวาดป้ายหาเสียงง่ายดี จะมีเพียงแต่พวกชาวบ้านที่ยากจนหน่อย ที่ไม่สามารถนำป้ายหาเสียงไปใช้เป็นฝาพนังบ้านได้เท่านั้นเองครับ
ที่ประเทศเมียนมาเขากำหนดให้ผู้สมัครมีสิทธิ์ในการหาเสียงได้ 60 วันหรือ 2 วันก่อนจะมีการเลือกตั้งใหญ่ ในครั้งนี้ได้เริ่มอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 06.00 น. ของวันอังคารที่ 8 กันยายน และสิ้นสุดเวลา 12.00 น.ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ตามกำหนดของคณะกรรมการการเลือกตั้งของสหภาพเมียนมาหรือ (UEC) ครั้งที่ผ่านๆ มาจะคึกคักมากกว่านี้เยอะ แต่ครั้งนี้โชคร้าย ที่เจ้าวายร้าย COVID-19 ระลอกสองกำลังระบาดหนักอยู่พอดี ดังนั้นจึงไม่ค่อยจะคึกคักเหมือนที่ผ่านมาสักเท่าไหร่ อีกทั้งอาจจะเป็นเพราะมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคการเมืองใหญ่กับพรรคเล็กเกิดขึ้นก็ได้
นี่เป็นข้อสังเกตุส่วนตัวผมนะครับ เพราะข่าวเริ่มออกมาหนาหูขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ ตัวอย่างเช่น การอัดรายการหาเสียงหรือแนะนำพรรคการเมือง ทางสถานีโทรทัศน์และวิทยุ จะต้องเดินทางมาอัดเสียงและภาพกันที่สถานี ซึ่งอยู่ที่เมืองย่างกุ้งหรือเมืองหลวงเนปิดอร์ แต่การเดินทางในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ผู้เดินทางข้ามเขตรัฐแต่ละรัฐ จะต้องถูกกักกันตัวในเขตที่เป็นจุดหมายปลายทางมา 21 วัน และเมื่อเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนา จะต้องถูกกักกันตัวอีก 14 วันในเขตดังกล่าว ดังนั้นพรรคการเมืองท้องถิ่นจึงยากที่จะมีใครอยากจะถูกกักกันตัวยาวนานขนาดนั้น พอดีหมดกันไม่ต้องหาเสียงกันเลยครับ แต่พรรคใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะอยู่กันที่เมืองหลวงเนปิดอร์หรือเมืองย่างกุ้งกันอยู่แล้ว จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาครับ
ในขณะที่สถานการณ์ในปัจจุบันของการระบาดรอบสองของ COVID-19 กำลังคุกคามอย่างหนัก ผู้ติดเชื้อตัวเลขเพิ่มขึ้นจนเราตามไม่ทัน เช้าค่ำตัวเลขจะต่างกันตลอดเวลา มากจนผมตามทุกวันก็ปวดหัวไปหมด ไม่รู้จะเชื่อตัวเลขไหนดีแล้วครับ อีกทั้งทางโฆษกของพรรค USDP U Nanda Hla Myint ได้ออกมากล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 7 ว่า “ชีวิตของประชาชนสำคัญกว่าการเลือกตั้ง หากการระบาดของ COVID-19 ครั้งนี้รุนแรงขึ้น ก็ขอให้คณะกรรมการเลือกตั้งของสหภาพฯ ได้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อนจะดีที่สุด” ดังนั้นผมเองก็ยังตั้งข้อสังเกตุและเป็นกังวลมาตลอดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีขึ้นตามกำหนดได้หรือไม่ เพราะความร้ายกาจของเจ้าวายร้าย COVID-19 รอบสองนี้หนักจริงๆ
ที่เป็นเช่นนี้เพราะเมื่อวันเดียวกันนั้น ท่านดอร์ อ่อง ซาน ซูจี เองก็ได้ยกเลิกการลงพื้นที่ เพื่อทำพิธีชักธงพรรคขึ้นสู่เสาธง ในวันที่ 8 กันยายนที่เขตเลือกตั้ง “ก่อมู่” (Kawhmu) ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของท่านเอง แต่ปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อในเขตนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขของประเทศเมียนมา จึงได้เสนอให้ท่านงดเดินทางเข้าไป ท่านต้องยกเลิกกำหนดการทั้งหมดเลย นี่เป็นเรื่องที่ทำให้ผมกังวลว่าการเลือกตั้งใหญ่จะมีขึ้นได้หรือเปล่านั่นเองครับ
ส่วนผลที่จะตามมาหากมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจริงๆ ผมเชื่อว่าจะทำให้การล็อกดาวน์ประเทศเมียนมา ก็คงจะต้องเลื่อนออกไปอีกแน่นอน นั่นหมายความว่าผมและเพื่อนๆผู้ประกอบการที่มีการลงทุนในประเทศเมียนมา ก็จะไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศเมียนมาได้ในระยะนี้ ธุรกิจฯต่างๆที่มีการวางแผนใว้ทั้งหมด ก็คงต้องล่าช้าออกไปอีกอย่างไม่มีกำหนด ทุกอย่างคงต้องอาศัยน้องๆชาวเมียนมาที่เขาช่วยดูแลอยู่ต่อไปอีกนานแน่ๆ ที่สำคัญกว่านั้นคือการขาดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศในเมียนมา ซึ่งนักลงทุนจากต่างประเทศ หรือ FDI ที่ลงทุนมากเป็นอันดับหนึ่ง คือจากประเทศจีน ที่เริ่มมีข่าวออกมาเรื่อยๆว่า เริ่มจะอึดอัดจากสถานการณ์นี้อยู่มาก หากมีการเลื่อนการเลือกตั้งจริงๆ คงกระทบการลงทุนมิใช่น้อยเลยครับ
อย่างไรก็ดี เราคงต้องจับตามองดูบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งและสถานการณ์ระบาดของCOVID-19 ไปพร้อมๆ กันต่อไปอย่างใกล้ชิดนะครับ เพราะบ้านเราอยู่ติดกับบ้านเขาครับ ฝนที่ตกอยู่ทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง