นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก” ระบุว่า คนไทยส่วนใหญ่อาจไม่ทราบว่า หลังจากที่ลุงตู่สั่งให้เหมืองทองอัคราหยุดการดำเนินการ และเป็นข่าวใหญ่ว่า เหมืองทองอัคราจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทยความเสียหายที่เกิดจากสารปนเปื้อนที่ใช้ในการทำเหมืองทองจนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบเหมืองทอง รัฐบาลและนักการเมืองในอดีตที่ผ่านมาเฉยเมยกับเสียงเรียกร้องของชาวบ้าน จนลุงตู่ต้องสั่งให้เหมืองทองหยุดดำเนินการ
แต่ในวันที่ 9 เดือน 9(กันยายน) เวลา 9 โมง (0900) หรือ 9/9/9 ชาวจันทบุรีจะรวมตัวกันหน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรี เพื่อคัดค้านการขอทำเหมืองทอง (ประทานบัตร) ของบริษัทต่างชาติที่ร่วมมือกับบริษัทคนไทย ที่จะขอเปิดทำเหมืองที่อำเภอแก่งหางแมว จันทบุรี แน่นอน ต้องไม่ใช่อำเภอเดียว พื้นที่เหมืองคงจะขยายไปเรื่อยๆตามเส้นทางสายแร่ทองจันทบุรีเป็นแหล่งผลิตผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนส่งออกอันดับต้นๆของไทย หากมีการทำเหมืองทอง พื้นที่เพาะปลูก แหล่งผลิตผลไม้จะต้องสูญหาย คงไม่มีใครอยากกินผลไม้ที่มีหรือสงสัยว่าจะมีสารปนเปื้อน ย่อมกระทบต่ออาชีพและรายได้ของคนจันท์แน่นอน รวมทั้งสุขภาพของคนจันท์ ความวัวเรื่องเหมืองอัครายังไม่จบ ความควายเรื่องเหมืองทองจันทบุรีกำลังจะมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมคนจันท์ถึงออกมาประท้วงคัดค้านเหมืองทองแห่งใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"กพร."ยันจำเป็นต้องใช้งบประมาณสู้คดีเหมืองทองอัครา
“วิษณุ” แจงนายกรัฐมนตรีปัดใช้ ม.44 ปิดเหมืองทองอัครา
“คดีเหมืองทองอัครา” ป.ป.ช.พบติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ
อย่าแชร์ !ข่าวปลอม "ไทยแพ้คดีเหมืองทอง ต้องจ่ายเงิน 70,000 ล้านบาท"