พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฎิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย คดี "บอส กระทิงแดง" ชุดรัฐบาล ชุดที่นายกรัฐมนตรีตั้งอาจารย์ วิชา มหาคุณ เป็นประธาน ได้แถลงผลสรุปจบไปเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา หลายคนที่ติดตามลีลาท่าทางการแถลงข่าวแล้วบอกว่าสมราคา และอีกหลายคนที่ลงไปศึกษาในเนื้อหาแล้วบอกว่าผิดความคาดหวัง เสียเวลาที่รอคอย กระผมเองขออยู่ตรงกลางและขอแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต กับบทสรุปผลการตรวจสอบในบางประเด็น ดังนี้
1. คณะกรรมการชุดนี้ตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามบทกฎหมายใด? ที่ให้อำนาจตรวจสอบกระบวนการยุติธรรมได้ ถ้าเฉพาะตำรวจก็พอจะได้เพราะ นรม.ควบคุม กำกับดูแลตำรวจ แต่สำนักงานอัยการสูงสุด ใช้อำนาจใด? ถ้าไม่มีการตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบก็ไม่ชอบ จะส่งผลให้ผลการตรวจสอบก็ไม่ชอบ แล้วจะนำผลไปใช้ก็ไม่ชอบ(ไม่ได้) ทฤษฎีต้นไม้พิษย่อมออกผลมาเป็นพิษ
2.ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติในทุกคณะตรงกันว่า หลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การสั่งไม่ฟ้อง "บอส กระทิงแดง" คือ ความเร็วที่ลดลงจาก 177 กม./ชม. เหลือไม่ถึง 80 กม./ชม.(ไม่เกินที่ กม.กำหนด) และพยานกลับชาติมาเกิด ความรู้สึกช้าสองปากที่ให้การยืนยันว่านายดาบ(ผู้ตาย)ขับรถปาดหน้า ดังนั้นบุคคลเหล่านี้ (พ.ต.อ. ธน.. , ดร. สาย.. , และ พยานคู่อีกสองคนซึ่งเสียชีวิตไปแล้วคนหนึ่ง)จึงเป็นตัวการสำคัญในคดี ที่เป็นเหตุให้นำมาสู่การสั่งไม่ฟ้อง ปรากฎว่า คกก.เสนอกันสองคนแรกซึ่งร่วมกันกลับลดความเร็วรถลงไว้เป็นพยาน ไม่ทราบว่า คกก.เอาหลักการของประเทศใดในโลกมาใช่? เพราะหลักการในการกันผู้ต้องหาเป็นพยานจะประกอบด้วย
ก. คดีเรื่องนั้นสอบสวนจนสิ้นกระแสความแล้วไม่สามารถหาพยานหลักฐานมาดำเนินคดีได้ (ซึ่งคดีนี้ก็ไม่ใช่)
ข. ผู้ต้องหาที่จะกันเป็นพยานนั้นต้องไม่ใช่ตัวการสำคัญในคดี(ซึ่งคดีนี้ก็ไม่ใช่)
ค. คำให้การของผู้ต้องหาที่กันเป็นพยานต้องมีน้ำหนักเพียงพอฟังลงโทษตัวการสำคัญได้
ต้องเข้าตามหลักสามข้อนี้ทุกข้อ การกันผู้ต้องหาเป็นพยานเปรียบเสมือนเอากุ้งฝอยไปตกปลากระพง(ยอมเสียกุ้งฝอยเพื่อให้ได้ปลากระพง) เราต้องกันคนร้ายที่ทำหน้าที่ดูต้นทางเพื่อลงโทษคนร้ายที่ข่มขืนแล้วฆ่าผู้ตาย ไม่ใช่กันคนข่มขืนแล้วฆ่าไว้เป็นพยานเพื่อลงโทษคนดูต้นทาง......
3. ประเด็นที่ คณะกรรมการเสนอให้คดีทุกเรื่องที่ผู้ต้องหาหลบหนีให้อายุความสะดุดหยุดอยู่ ประเด็นนี้ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ความเป็นสากล ความเป็นอารย นานาอารยประเทศคงจะออกมาแสดงความยินดีกับประเทศไทยที่จะกลับไปใช้โทษประหารด้วยการตัดคอเสียบประจานอีกครั้งหนึ่ง อายุความตามกฎหมายถือเป็นการลงโทษโดยทางอ้อม โทษที่จะลงหนักหรือเบาก็จะสัมพันธ์กับอายุความ เช่น ความผิดเล็กๆน้อยๆตาม พ.ร.บ.จราจรฯ อายุความ 1 ปี โทษหนักขึ้น อายุความ 5 ปี 10 ปี 15 ปี และ 20 ปี หนีได้หนีไป ต้องหลบๆ ซ่อนๆ นั้น คือการถูกลงโทษโดยปริยายแล้ว (ทุกคนยังต้องถือว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเขาได้กระทำผิด ดังนั้นจะปฏิบัติกับเขาเยี่ยงผู้กระทำผิดมิได้) ประเทศไทยเราเพิ่งทำสำเร็จเรื่องให้อายุความสะดุดหยุดอยู่ในคดีทุจจริตต่อหน้าที่ราชการในยุครัฐบาล คสช.ที่ผ่านมา ถ้าเป็นคดีบางเรื่อง บางประเภท เฉพาะเรื่อง เฉพาะราวนั้นพอจะรับได้ แต่ถ้าจะให้เหมาเข่งทุกประเภทคดีเห็นทีจะต้องกลับไปนุ่งใบไม้กันอีกครั้งละ!!!
ในประเด็นนี้ ท่าน รองนายก วิษณุ เครืองาม ก็ได้แสดงความคิดเห็นทำนองเดียวกับกระผมและบอกจะส่งให้ คกก.ปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม พิจารณามีความเห็น(คกก.จะประชุมครั้งหน้า 14 ก.ย.นี้) กระผมในฐานกรรมการขอแสดงความเห็นส่วนตัวล่วงหน้า(กันลืม)
กำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ต้องสังเวยชีวิตคนไปมากต่อมากเพื่อสร้างกำแพงที่ยิ่งใหญ่ยาวไกลเช่นนี้จนเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันข้าศึกศรัตรูจะเข้ามารุกราน แม้จะยิ่งใหญ่เพียงใด? ไม่ช้าไม่นานข้าศึกก็เข้าไปได้โดยง่ายเพราะคนเฝ้าประตูรับสินบนฉันใด... แม้ว่าองค์กร หน่วยงาน กฎหมาย ระเบียบ คำสั่งข้อบังคับ จะเข้มแข็งเข้มข้นสักปานใด แต่ถ้าบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมยังอ่อนแอ (ยังเป็นคนเดียวกับที่เฝ้าประตูกำแพงเมืองจีนคนนั้น) ก็ไม่มีทางที่จะยกระดับกระบวนการยุติธรรมขึ้นมาได้ ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา กระผมได้เดินสายบรรยาย สัมมนารับฟังความคิดเห็นด้านการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมชั้นต้น ซึ่งเป็นโครงการของสภาทนายความ - ตำรวจ หนึ่งในข้อเสนอที่ดีคือ คนในกระบวนการยุติธรรมทุกองค์กร จะต้องมีโครงการทดสอบ/ตรวจสอบ ทัศนคติ กระบวนทัศน์ แนวคิด สภาวะจิต สภาพจิตใจว่ามีความพร้อม มีความเหมาะสมที่จะอยู่ในตำแหน่ง หน้าที่อำนวยความยุติธรรมเพียงใด? หรือไม่? ไม่ใช่พอเข้าสู่ตำแหน่งได้แล้วก็เป็นพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ ผู้พิพากษากันไปตลอดชีวิต .......
กำแพงก็ไม่ยอมสร้าง (ปฏิรูปตำรวจ - ปฏิรูปการสอบสวน) พัฒนาคนก็ไม่ยอมทำกระบวนการยุติธรรมถึงได้ดำดิ่ง ..... เอาออกมาสิครับ ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ(ฉบับปฏิรูปตำรวจ) ร่าง พ.ร.บ.การสอบสวน.. ชุดอาจารย์มีชัย ทำเสร็จไปนานสองนานแล้วจะอ้างว่าตำรวจไม่เห็นด้วยแล้วเก็บ ถามอีกทีว่าถ้าจะรอให้หน่วยที่จะถูกปฏิรูปเห็นด้วยนั้นมันจะเกิดขึ้นได้หรือ? เอาออกมาในที่แจ้งให้ได้ถกแถลงแสดงเหตุผลกันเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปเสียทีเถอะ!! ไม่ไหวแล้ว.. ทำนายล่วงหน้านะครับ เดี๋ยวแต่งตั้งระดับนายพันที่จะถึงนี้ก็ต้องมีข่าวฉาวโฉ่ ข้ามหัวกัน ซื้อขายตำแหน่ง เด็กเส้นบิ๊กนั้น บิ๊กนี้ยึดทำเลทอง คนที่ไม่มีเส้น ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ไประบายกับประชาชน วนกันไปเป็นวงจร... ชั่วกัปชั่วกัลป์
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน
กรรมการปฎิรูปประเทศ
ด้านกระบวนการยุติธรรม
4 กันยายน 2563
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สป.ยธ.จี้นายกฯเปิดชื่อผู้เกี่ยวข้องช่วย“บอส อยู่วิทยา”
สมคบคิดช่วย ‘บอส’ เปิดอักษรย่อคนเอี่ยว นับหนึ่งรื้อคดีใหม่
ความในใจบิ๊กตู่ ถึง "คดีบอส อยู่วิทยา" น่าเศร้ามากสำหรับประเทศไทย
เปิดตัวย่อ คนเอี่ยว "คดีบอส อยู่วิทยา" ลุยเช็กบิล 8 กลุ่ม