ตามที่มีการนำเสนอข่าวกรณี เสาตอม่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่อยู่ระหว่างก่อสร้างพังถล่มลงมา บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. วันที่ 6 สิงหาคม 2563 นั้น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้สั่งการให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาโครงการ (PCPK) และผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการฯ (บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)) ตรวจสอบกรณีดังกล่าว และขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นเหตุจากโครงค้ำยันชั่วคราวระหว่างติดตั้งคานสำเร็จรูปเชื่อมกับเสา เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ ทำให้สภาพดินที่ตั้งค้ำยันชั่วคราวอ่อนและทรุดตัว ประกอบกับมีน้ำหนักจากคอนกรีตที่เทเชื่อมคานสำเร็จรูปกับเสา ทำให้เกิดการทรุดตัวของค้ำยันและคานสำเร็จรูปได้หลุดหล่นลง โดยเหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 5 ราย โดยบาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย ขณะนี้ได้กลับบ้านโดยปลอดภัยแล้ว และรอดูอาการ 1 ราย
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ เคลียร์พื้นที่และเปิดจราจร ตั้งแต่เวลา 06.30 ทั้งนี้ รฟม. ได้กำชับให้และให้ตรวจสอบทุกจุดที่มีการใช้คอนกรีตรับน้ำหนักคานสำเร็จรูปในลักษณะเดียวกันนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยขึ้นอีก และเพิ่มมาตรการอำนวยความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างและตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในงานก่อสร้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 6 ส.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ หลังจากได้รับแจ้งมีเสาตอม่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่อยู่ระหว่างก่อสร้างพังถล่มลงมา ทำให้มีคนงานได้รับบาดเจ็บหลายคน เหตุเกิดบนถนนแจ้งวัฒนะหน้าห้างแมคโคร สาขาแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จึงรุดเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบคนงานได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 คนนั่ง-นอนกระจัดกระจายอยู่ในที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นนำส่ง ร.พ.กรมชลประทานปากเกร็ดทั้งหมด ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าตัวคานเสาตอม่อรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้นถล่มลงมาพังเสียหาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระทึก เสาตอม่อ "รถไฟฟ้าสายสีชมพู" พังถล่ม
นายณรงค์ศักดิ์ บริรัก อายุ 29 ปีชาว จ.สกลนคร เป็นคนงาน 1 ในผู้บาดเจ็บให้การว่าขณะเกิดเหตุตนเองและคนงานร่วมถึงโฟร์แมน (ผู้ควบคุมงาน) รวม 5 คนกำลังทำการเทคอนกรีตอยู่บนเสาตอม่อดังกล่าวแต่เพิ่งจะเริ่มเทคอนกรีตได้เพียงไม่กี่นาทีตัวคานนั้นก็พังถล่มลงมาอย่างไม่ได้ทันตั้งตัวทำให้ทุกคนตกลงมาพร้อมกับเศษซากเหล็กและคอนกรีตที่มีความสูงประมาณ 5 เมตรเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานก่อสร้างต้องเร่งทำการเคลียร์พื้นที่ให้เสร็จก่อนรุ่งเช้าเนื่องจากเกรงว่าจะทำให้การจราจรติดขัด ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้พร้อมกับจะต้องทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมถึงสาเหตุอีกครั้ง