อคส.บุกตลาดข้าวถุงเต็มพิกัด เล็งขายให้เครืออาลีบาบารุกจีน

องค์การคลังสินค้า (อคส.) รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นหนึ่งในองค์กรที่ต้องหารายได้เลี้ยงตัวเองเพื่อความอยู่รอด จากที่ผ่านมาองค์กรแห่งนี้ถูกกระแสการเมืองซัด มีการเปลี่ยนตัวคณะกรรมการ(บอร์ด) และผู้อำนวยการบ่อยครั้ง ทำให้แผนงาน/โครงการต่าง ๆ ขาดความต่อเนื่อง และต้องกลับมาวางแผนกันใหม่ ซึ่งหนึ่งในธุรกิจสำคัญคือการผลิตและจำหน่ายข้าวถุงตรา อคส.

นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการ (บอร์ด) องค์การคลังสินค้า (อคส.) คนปัจจุบัน เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงแผนการตลาดของข้าวถุงอคส.ว่า ที่ผ่านมามีการจำหน่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น จำหน่ายให้กับหน่วยงานรัฐ เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ทั่วประเทศ และจำหน่ายในร้านค้าของอคส. แต่ยังไม่เพียงพอที่จะสร้างรายได้เข้าองค์กร โดยปี 2562 มีรายได้จากการจำหน่ายข้าวถุง 32.3 ล้านบาท ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะผลักดันให้มีการจำหน่ายข้าวถุงผ่านระบบออนไลน์มากขึ้นทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ  เน้นตลาดกลาง-ล่าง โดยชูความได้เปรียบความเป็นข้าวพรีเมียมในราคาที่ผู้บริโภคสามารถซื้อได้ในราคาถูก 

ปัจจุบันอคส.มีข้าวถุงหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ข้าวหอมมะลิ 100% ขนาด 1 กิโลกรัม(กก.) ราคา 44 บาท ขนาด 5 กก. ราคา 215 บาท, ข้าวขาวคัดพิเศษ 5 กก.ราคา 95 บาท, ข้าวเส้าไห้ 5 กก. ราคา 85 บาท,ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ขนาด 1 กก. ราคา 64 บาท ข้าวก่ำดอยมูเซอ(ข้าวก่ำลืมผัว) ขนาด 1 กก. ราคา 100 บาท หรือข้าวไรซ์เบอรี่ ขนาด 1 กก.ราคา100 บาท  ซึ่งเป็นข้าวที่อคส. คัดคุณภาพและเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค 

ในส่วนของการทำตลาดออนไลน์นั้น เบื้องต้นมองว่าจะนำไปจำหน่ายในรูปแบบขายขาด เช่น จำหน่ายให้กับเหอหม่าซึ่งเป็นร้านค้าของอาลีบาบาที่คิดค้นขึ้นภายใต้กลยุทธ์ New Retail เพื่อปฏิวัติรูปแบบการค้าปลีกของจีน ซึ่งเป็นการขายขาดโดยที่ อคส.ไม่ต้องยุ่งเรื่องการจัดการสต๊อกหรือการบริหารจัดการ

“รายได้จากการจำหน่ายข้าวถุงยังไม่อยากตั้งเป้าว่าจะได้เท่าไหร่ เพราะอยากให้การทำงานได้เห็นผลก่อน และอยากจะขยายตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้น เพราะปัจจุบันข้าวถุงอคส.มีจำหน่ายที่ร้าน อคส. เท่านั้นที่เหลือจำหน่ายเข้าหน่วยงานรัฐด้วยกัน”

นายสุชาติ ยังเผยถึงความคืบหน้าการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่ยังคงเหลือ 208,600.09 ตัน ว่า จากเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2562 คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติเห็นชอบให้ อคส. ออกประกาศระบายข้าว ซึ่งเป็นข้าวที่คงเหลือจากที่ภาคเอกชนไม่มารับมอบจากมีปัญหาติดคดีความ ซึ่งข้าวที่สามารถเคลียร์คดีได้ได้ให้นำออกมาประมูล ซึ่งก็มีผู้สนใจกว่า 60 ราย ให้ราคาเฉลี่ย 13,000-14,000 บาทต่อตัน 

ทั้งนี้พันตำรวจเอกรุ่งโรจน์  พุทธิยาวัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการ อคส.ได้รายงานเรื่องนี้ให้ทราบแล้ว ซึ่งบอร์ดมีการตั้งข้อสังเกตในส่วนของราคาเทียบกับราคาตลาด ณ ปัจจุบันว่าสมควรอนุมัติขายหรือไม่ และยังให้ไปดูเรื่องผลกระทบเกี่ยวกับการขนย้ายเพราะบางคลังประมูลได้แต่ติดปัญหาเรื่องขนย้าย จากอคส.ค้างค่าเช่าเอกชน ดังนั้นเพื่อให้เกิดความรอบคอบและโปร่งใสบอร์ดจึงให้มีการตรวจสอบเอกสารสัญญาอีกครั้งซึ่งน่าจะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลได้เร็ว ๆ นี้ 

หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,596 วันที่ 30 กรกฎาคม-1 สิงหาคม พ.ศ. 2563