วันนี้( 29 มิ.ย.63) นายวันชัย สอนศิริ และ พล.ร.อ.ฐนิธ กิตติอำพน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและส่งเสริมธรรมาภิบาล และคณะกรรมาธิการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กรณีการหรือถอนอาคารศูนย์เรียนรู้ป่าไม้สวนรุกขชาติเชตวัน หรืออาคาร "บอมเบย์เบอร์มา" ที่จังหวัดแพร่ โดยเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการกระทำผิด ต่อประมวลกฎหมายอาญา กฎหมายโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปะวัตถุและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ส่อการทุจริต และประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ
โดยความผิดครั้งนี้ ขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบเอาผิด ตั้งแต่การอนุมัติงบประมาณไปจนถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ และห้างหุ้นส่วนแพร่โกสินทร์ก่อสร้าง
นายวันชัย ย้ำว่าการรื้ออาคารดังกล่าวไม่สามารถอ้างเหตุว่ารู้เท่าไม่ถึงการได้ พร้อมกันนี้ทางคณะกรรมาธิการฯ จะได้ตรวจสอบการฟื้นฟูอาคารดังกล่าว รวมทั้งตรวจสอบอาคารอื่นๆที่มีลักษณะเข้าข่ายโบราณสถานเช่นเดียวกับอาคารบอมเบย์เบอร์ม่า ที่มีอยู่ทั่วประเทศด้วย
“ทั้งหมดเหล่านี้ มีการประทำผิดต่างกรรม ต่างโอกาส ต่างวันเวลากัน และเชื่อมโยงกัน คณะกรรมาธิการฯ เห็นว่าการกระทำเหล่านี้ น่าจะเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการกับบุคลที่เกี่ยวข้องต่อไป ที่เห็นชัดเจนอาคารบอมเบยเบอร์มา เป็นโบราณสถานชัด และกฎหมายกำหนดไว้ว่าเมื่อเป็นโบราณสถานกระบวนการต้องทำอย่างไร ต้องขออนุญาตใคร ใครก็ตามที่มาดำเนินการเรื่องนี้จะต้องรู้จะมาปฎิเสธว่าไม่รู้ ไม่ทำ ตามที่กฎหมายกำหนดนั้นไม่ได้ หลายภาคส่วนมักจะอ้างว่า ไม่รู้ ไม่เข้าใจ คาดว่าคงอนุญาตแล้ว หรือขออนุญาตแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่ปรากฏว่ามีการขออนุญาต ดังนั้นแต่ละคน แต่ละหน่วยงานต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ “ นายวันชัย ระบุ
อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกทั้งสองคณะกรรมาธิการฯ ยังหวังว่าข้อมูลที่คณะกรรมาธิการได้มีการตรวจสอบในเบื้องต้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ป.ป.ช.พิจารณาตรวจสอบได้เร็วขึ้น
นายวันชัย ยังกล่าวถึงการที่รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภา ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าการทำงานของฝ่ายบริหารฉบับไว ทันใจ เบื้องต้นมีการสอบสวนและโยกย้ายบางส่วน แต่การหาตัวผู้กระทำผิดก็เป็นไปตามกระบวนการ ถือว่าเป็นรัฐมนตรีที่จริงจัง รวดเร็ว ทันใจ แต่ทางวุฒิสภาไม่ต้องการเพียงแค่นี้ แต่เรื่องอย่างนี้มีอยู่ทั่วประเทศ ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก
“เรื่องนี้ทุกมิติของการจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งการดำเนินการในเรื่องนี้ เราไม่ต้องการเพียงแต่มาสอบเฉพาะมอบเบยเบอร์มา เราต้องการให้เป็นบทเรียนและคนที่เกี่ยวข้องไม่ควรจะลอยนวล และไม่ควรจะปัดความรับผิดชอบกันไปมา เพราะถือว่าเรื่องนี้ ถ้าทุกคนที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินการ มีส่วนตรวจสอบ เข้มงวดตามระเบียบ ตามกฎหมาย เหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”นายวันชัย กล่าว
ด้าน พล.ร.อ.ฐนิธ กล่าวว่า กระบวนการจัดทำในเรื่องระเบียบพัสดุ ถือว่าไม่ถูกต้อง ควรจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบให้ชัดเจน รวมทั้งการขออนุญาตปรับปรุงอาคารถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ที่ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบว่าทำไปถูกต้องหรือไม่