“เที่ยวปันสุข” ลงทะเบียน 15 กค.63 เพิ่มสิทธิ์ 2 เด้ง เช็กเลย

29 มิ.ย. 2563 | 05:10 น.

เปิดรายละเอียดมาตรการ “เที่ยวปันสุข” 3 แพ็คเกจกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่จะเสนอให้ครม.อนุมัติพรุ่งนี้(30 มิ.ย.)แบบละเอียด ลงทะเบียน 15 ก.ค. 2563 เงื่อนไขอย่างไร ปรับเพิ่มสิทธิ์ "เราไปเที่ยวกัน" 2เด้ง

ความคืบหน้า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ “ไทยเที่ยวไทย” ใน 3 แพ็คเกจ ได้แก่ 1. แพ็คเกจ "กำลังใจ" 2. แพ็คเกจ "เราไปเที่ยวกัน" 3. แพ็คเกจ "เที่ยวปันสุข" ที่รัฐบาลสนับสนุนงบ 22,400 ล้านบาท กระตุ้นการท่องเที่ยว ในช่วง 4 เดือนนี้(กรกฎาคม ถึง ตุลาคม 2563) คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณามาตรการดังกล่าวในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 นี้

ส่วนการเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์ในโครงการนี้ เบื้องต้นจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 เลื่อนออกไปจากเดิมที่นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ระบุว่า จะมีการให้เปิดลงทะเบียนในวันที่ 1กรกฎาคม 2563 เพราะหลังจากที่ครม.อนุมัติแล้ว จะต้องมีการหารือในรายละเอียดกับผู้ประกอบการเอกชนที่จะเข้าร่วมโครงการอีกครั้ง

วันที่ 30 มิ.ย. 2563 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ งบประมาณ 22,400 ล้านบาท เพื่อดำเนินการมาตรการท่องเที่ยว 2 โครงการ ดังนี้

1. โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน" ด้วยการนำ 2 แพ็คเกจกระตุ้นการท่องเที่ยวเดิม คือ "เที่ยวปันสุข" กับ “เราไปเที่ยวกัน” มารวมเป็นแพ็คเกจเดียว โดยจะเปิดให้โรงแรมลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563

ส่วนประชาชนจะเปิดให้ลงทะเบียน 15 กรกฎาคม 2563 ทั้งนี้โรงแรมทีเข้าร่วมโครงการจะต้องมีใบอนุญาต ขึ้นทะเบียนจากกรมการท่องเที่ยว ส่วนประชาชนจะต้องลงทะเบียนผ่าน เว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com และ แอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง" เมื่อได้รับสิทธิ์แล้วก็จะให้กระทรวงการคลังจะโอนจ่ายตรงกับโรงแรม 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน รวมทั้งจะสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน โดยให้ออกค่าใช้จ่ายไปก่อน แล้วรัฐจะจ่ายคืนให้ ไม่เกิน 1,000 บาท/ที่นั่ง

2. แพ็คเกจกำลังใจ ที่เปิดให้เจ้าหน้าที่ อสม. รพ.สต. จำนวน 1.2 ล้านคน ได้เที่ยวผ่านบริษัทท่องเที่ยวโดยไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืนยังคงไว้เหมือนเดิม

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม "เที่ยวปันสุข" เปลี่ยนชื่อเป็น "เราเที่ยวด้วยกัน" เปิดลงทะเบียน 15 ก.ค.63

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"เที่ยวปันสุข" ททท. บูม 3 โครงการใหญ่ ต่อยอด 3 แพ็คเกจกระตุ้นท่องเที่ยว

"เที่ยวปันสุข-เราไปเที่ยวกัน" คำนวณค่าที่พัก อย่างไรให้คุ้ม

ลงทะเบียนเที่ยวปันสุข - เราไปเที่ยวกัน 6 ข้อควรรู้ก่อนรับสิทธิ์

“เที่ยวปันสุข” เช็กความพร้อม “อุทยานแห่งชาติ” 3 สไตล์ เปิดเที่ยว 1 ก.ค.นี้

รายงานข่าวจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศที่จะเสนอให้ครม.พิจารณานั้นจะประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ดังนี้

  • แผนงานกระตุ้นอุปโภค บริโภค และกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการกำลังใจ วงเงิน 2,400 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวของ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 1.2 ล้านคน ด้วยการให้สิทธิ์เที่ยวฟรี 100% ผ่านบริษัทนำเที่ยว 13,000 ราย แพ็คเกจนำเที่ยว 2 วัน 1 คืน ไม่เกิน 2,000 บาทต่อ1 คน 1 สิทธิ์
  • แผนงานกระตุ้นอุปโภค บริโภค และกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการเราเที่ยวด้วยกัน วงเงิน 20,000 ล้านบาท ในแผนงานนี้จะประกอบด้วย แพ็คเกจ "กำลังใจ" และ แพ็คเกจ "เที่ยวปันสุข"

จากการประชุมหารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กระทรวงการคลัง ได้รับการชี้แจงว่า จะมีการเปิดเว็บไซต์สำหรับใช้ในการลงทะเบียนในชื่อ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com  

เมนู "เราเที่ยวด้วยกัน" เมื่อคลิกเข้าไปที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com จะมีเมนูให้เลือก 2 เมนู คือ "เราไปเที่ยวกัน" กับ "เที่ยวปันสุข" สำหรับให้ผู้ที่ต้องการรับสิทธิ์ลงทะเบียน โดยกำหนดอายุผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียนต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป จะได้รับสิทธิ์รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวให้ 40% ตามแพ็คเกจ "เราไปเที่ยวกัน" รัฐสนับสนุนค่าโรงแรมให้ 40% ต่อคืน แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน สูงสุดจองได้ไม่เกิน 5 คืน รวมทั้งจะได้รับอี-เวาเชอร์ 600 บาทต่อคืน ผ่านแอป "เป๋าตัง" ส่วนแพ็คเกจ "เที่ยวปันสุข" รัฐบาลจะสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเดินทาง 40% ไม่เกิน 1,000 บาทต่อคน

ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com  ในเมนู "เราเที่ยวด้วยกัน" จากนั้นระบบก็จะเปิดให้มีการลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพื่อรับโค้ด เข้าไปเลือกจองโรงแรมที่พัก ซึ่งมีให้เลือกถึง 5 ล้านคืน โดยกำหนดให้ 1 คนได้รับเพียง 1 สิทธิ์ จองได้สูงสุดไม่เกิน 5 คืน โดยระบบจะเชื่อมเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ของโรงแรมที่เลือกจอง

เมื่อจองเสร็จขั้นตอนต่อไปคือ จ่ายค่าที่พักให้โรงแรม 60% ด้วยบัตรเครดิต QR Code หรือ พร้อมเพย์ และรัฐบาลจะสนับสนุนจ่ายค่าห้องพักให้ 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน (รัฐจ่ายให้โรงแรมเมื่อนักท่องเที่ยวเช็คเอ้าท์) โดยมีเงื่อนไขว่าการจองที่พักต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง

หากใครจะจองซื้อตั๋วเครื่องบินด้วย ระบบก็จะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์จองตั๋วเครื่องบิน เพื่อรับโปรโมชั่นโค้ดรับสิทธิ์ที่รัฐจะสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ไม่เกิน 1,000 บาท จากราคาตั๋วที่สายการบินเสนอราคาค่าตั๋วเครื่องบินอยู่ที่ราว 2,500 บาท(ไป-กลับ) ที่มีตั๋วทั้งหมดราว 2 ล้านใบ

แต่ที่พิเศษกว่านั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงการรับสิทธิ์ใหม่ จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าคนที่จองห้องพัก1 ห้อง จะได้รับสิทธิจองตั๋วเครื่องบินได้1ใบ ล่าสุดปรับเพิ่มสิทธิ์ เป็นจองห้องพัก1 ห้องจะได้รับสิทธิจองตั๋วเครื่องบิน 2 ใบ เพื่อให้มีคนเดินท่องเที่ยวได้พร้อมกัน

นักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนจองที่พัก จะได้ อี-วอลเชอร์ ผ่านแอป "เป๋าตัง" จำนวน 600 บาทต่อคืน สูงสุดไม่เกิน 5 คืน หรือ 3,000 บาท เพื่อนำไปใช้เป็นค่าอาหาร ค่าใช้บริการในแหล่งท่องเที่ยว โดยมีเงื่อนไขว่านักท่องเที่ยวจ่าย 60% ของค่าใช้จ่ายจริง และรัฐบาลจะสนับสนุนอีก 40% ซึ่งสามารถแสกนบาร์โค้ดชำระเงินผ่านสถานประกอบการที่ใช้แอป "ถุงเงิน" ซึ่งนักท่องเที่ยวจะใช้ตั้งแต่วันที่เช็คอิน ถึงวันที่เช็คเอ้าท์ (23.59น.)ใช้เงินไม่ครบ 600 บาทต่อคืนระบบจะยึดเงินคืน