วันที่ 27 มิถุนายน 2563 ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายวราวุฒิ ศิลปาอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายเตรียมความพร้อม รับมือสถานการณ์หมอกควันภาคใต้ ปี 2563 โดยมีนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต้อนรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมรับมอบนโยบาย
ในการประชุมมอบนโยบายเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์หมอกควันภาคใต้ ปี 2563 ในวันนี้ สืบเนื่องจากช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนของทุกปี จะเป็นช่วงหน้าแล้งของภูมิภาคเอเชียตอนล่าง มีโอกาสเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าพรุ ทั้งป่าพรุภายในประเทศ และป่าพรุบริเวณเกาะสุมาตรา-บอร์เนียว ซึ่งสถานการณ์ไฟป่าดังกล่าว ก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันข้ามแดน และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย
ทั้งนี้ สถานการณ์หมอกควัน ภาพรวมในปี 2562 มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นกว่าปีก่อนหน้า เนื่องจากความแห้งแล้งส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของไฟป่า ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส) จึงกำหนดให้มีการประชุมมอบนโยบายเตรียมความพร้อม รับมือสถานการณ์หมอกควันภาคใต้ ปี 2563 ขึ้น
นายวราวุฒิ ศิลปาอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัญหาหมอกควัน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเราสามารถควบคุม ป้องกัน และสามารถบริหารจัดการได้ กับหมอกควันที่ข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย เราไม่สามารถไปควบคุมและแก้ไขได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้ คือ ทางกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหนังสือไปยังเลขาธิการอาเซียน เพื่อให้ทางเลขาธิการอาเซียนแจ้งไปยังประเทศที่เกี่ยวข้องต่อไป
การแก้ปัญหาหมอกควันหรือการเผาไหม้ ในแต่ละประเทศมีความยากง่ายที่แตกต่างกันไป ในส่วนของประเทศไทย ขณะนี้สถานการณ์พรุ เช่น ป่าพรุควนเคร็ง ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ปริมาณน้ำในพรุปีนี้มีมากกว่าปีที่ผ่านมาพอสมควร
อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กรมชลประทาน กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กองทัพภาคที่ 4 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติ หน่วยควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน ที่บูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ทั้งการสร้างฝายกันน้ำ การสูบน้ำเข้าในพื้นที่ป่าพรุ ซึ่งขณะนี้ได้สูบน้ำเข้าป่าพรุเป็นเวลา 55 วันแล้ว วันละประมาณ 20-22 ชั่วโมง มีน้ำในป่าพรุแล้วกว่า 10 ล้านคิว มีปริมาณน้ำในป่าพรุบวก ประมาณ 44 เซ็นติเมตร
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำยังมีมาก แต่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง เพราะจากนี้ไปการที่ฝนทิ้งช่วง ประกอบกับเป็นช่วงที่พี่น้องเกษตรกรเริ่มทำการเกษตร จึงขอฝากไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน หาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ที่สำคัญคือป่าพรุ และต้องไม่ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ
สำหรับภาพรวมสถานการณ์ไฟป่าพรุควนเคร็ง บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ ในปี 2562 ที่ผ่านมาเกิดไฟไหม้ในพื้นที่ดังกล่าวจำนวน 82 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 16,801 ไร่ ส่วนสถานการณ์หมอกควันในกลุ่มอนุภูมิภาคแม่โขงตอนล่าง พบจุดความร้อนสะสมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2562 จำนวน 24,085 จุด