"ตั้ว ศรัณยู" กับ โรคร้าย มะเร็งตับ ที่ทุกคนควรรู้

11 มิ.ย. 2563 | 02:25 น.

"ตั้ว ศรัณยู" เสียชีวิตด้วยโรค "มะเร็งตับ" มักพบได้บ่อยในเพศชาย ผู้ป่วยระยะแรกมักไม่ค่อยมีอาการแสดง

เมื่อดาราผู้กำกับชื่อดัง “ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” ถูกมะเร็งร้ายคร่าชีวิตไป ปลุกให้เราทุกคนต้องหันมาใส่ใจและพูดถึงเรื่องของการดูแลสุขภาพกันอีกครั้ง จากข้อมูลกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยข้อมูลสถานการณ์โรคมะเร็งในประเทศไทยตลอดหลายสิบปีทีผ่านมา ระบุว่า มะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของไทย ขณะที่ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ปี 2562 เผยว่า คนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งวันละ 221 คน หรือ 80,665 คนต่อปี มีคนไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งรายใหม่วันละ 336 คน หรือ 122,757 คนต่อปี โดยมะเร็งที่พบบ่อยในเพศชาย อันดับหนึ่ง คือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี  

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

มะเร็งตับคร่าชีวิต "ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง"  

เปิดประวัติ "ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง"

คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับ โรค มะเร็งตับ กันบ้าง

สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งตับในระยะแรกมักไม่ค่อยมีอาการแสดง กว่าจะได้รับการวินิจฉัยครั้งแรกก็มักอยู่ในระยะท้ายของโรคแล้ว

มะเร็งตับ มี 2 ชนิด คือ 1.มะเร็งของเซลล์ตับ (hepatocellular carcinoma) เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดทั่วโลกและพบมากที่สุดในประเทศไทย และ2.มะเร็งของท่อน้ำดีในตับ (cholangiocarcinoma)

ส่วนปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับนั้น มีหลายประการ เกิดภาวะตับแข็งได้จากทุกสาเหตุ ไม่ว่าจะจากแอลกอฮอล์ หรือ ไวรัสตับอักเสบ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบทั้งชนิดบีและซี สารพิษอะฟลาท็อกซินซึ่งปนเปื้อนอยู่ในเมล็ดพืช เช่น ถั่วลิสง ข้าวโพด พริกแห้ง ทั้งยังเป็นโรคทางพันธุกรรมและเมตาบอลิกต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน ซึ่งทำให้เกิดไขมันเกาะตับและเป็นตับแข็งตามมา รวมถึงการได้รับยาหรือสารเคมีบางชนิด เช่น การได้รับฮอร์โมนเพศชายเป็นเวลานาน

มะเร็งตับในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อเป็นมากขึ้นอาจมีอาการ ดังนี้ 1.ปวดท้องโดยเฉพาะบริเวณข้างขวาส่วนบน ในบางรายอาจมีอาการปวดร้าวไปที่หลังหรือไหล่ ตามด้วยอาการท้องบวม น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร ไม่รู้สึกอยากอาหาร รู้สึกอ่อนเพลีย มีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ คลำพบก้อนที่บริเวณตับ ตัวเหลืองและตาเหลือง

ทั้งนี้ การรักษามะเร็งตับจะขึ้นกับสภาวะความรุนแรงของโรค ขนาดและลักษณะของเซลล์มะเร็ง ระยะของโรคและการแพร่กระจายของมะเร็ง รวมถึงสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย โดยแพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย การรักษาที่ดีที่สุด คือ การป้องกันและตรวจคัดกรองหามะเร็งตับ เนื่องจาก 90% ของมะเร็งตับเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี

ขอบคุณข้อมูลจาก  Bumrungrad International