“คลายล็อกดาวน์”คนใช้รถไฟฟ้าพุ่งเฉียด6แสน

30 พ.ค. 2563 | 03:52 น.

“คลายล็อกดาวน์” กรมรางฯสรุปตัวเลขคนเดินทางโดยรถไฟฟ้าทั้งระบบ เมื่อวันศุกร์ 29พ.ค. เพิ่มขึ้น 578,000คน แน้มโนม เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ย้ำยังเข้มมาตรการระยะห่างทางสังคม-รักกษาความสะอาด

 

 

 

 

 

 

 

 

 “คลายล็อกดาวน์”คนใช้รถไฟฟ้าพุ่งเฉียด6แสน

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมขนส่งทางราง สรุปปริมาณการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้า ช่วงวันทำงาน พบว่าเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 50,000 คน ในช่วง 5 วันทำงานตลอดสัปดาห์ที่ผ่านจาก 528,000 คน เมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม  เพิ่มขึ้นเป็น 578,000 คน เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม   อย่างไรก็ตามเมื่อมีการคลายล็อกดาวน์ระยะที่3 คาดว่าจะมีคนใช้บริการเพิ่มขึ้นแต่ทั้งนี้ กรมยังคงเข้มงวดเรื่องมาตราการ เว้นระยะห่างทางสังคม วัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในขบวนรถก่อนให้บริการ  ซึ่ง ผู้โดยสารและ ผู้ให้บริการเดินรถ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

 

 “คลายล็อกดาวน์”คนใช้รถไฟฟ้าพุ่งเฉียด6แสน

กรมการขนส่งทางรางสำรวจ การบริหารจัดการในระยะรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในทุกสาย ในชั่วโมงเร่งด่วน “

 

 

 

 “คลายล็อกดาวน์”คนใช้รถไฟฟ้าพุ่งเฉียด6แสน

ทั้งนี้ จาการพบว่า ทุกระบบ สามารถบริหารจัดการ ไม่ให้เกิดความหนาแน่น มีระยะ Social Distancing ในตู้และที่ชานชาลา ขณะเดียวกันมีการพัฒนาระบบคัดกรอง ด้วย ระบบ Thamal scan อุณหภูมิที่แม่นยำ และ จัด Group release โดยมีระยะเวลารอ 2-5 นาที เท่านั้น ก่อนเข้า Gate และ มี Headway การให้บริการที่สูงสุดในทุกระบบ มีการประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือจากผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง ทั้งชานชาลา และในขบวนรถ ในการป้องกันการแพร่ระบาด มีแอลกอฮอล์บริการล้างเช็ดมือ ทั้งทุกทางเข้า ออก

 

อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางรางขอขอบคุณประชาชนที่กรุณาเข้าใจวิถี New Normal   ต้องวางแผนการเดินทางล่วงหน้าเนื่องจากพบว่า บางสถานีเข้าในเมือง มีการทำ Group release เช้าขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผู้โดยสารมีการวางแผนเดินทางออกเคหะสถานเช้าขึ้น แต่เวลาเดินทางกลับ ยังคงมีเวลา กลับพร้อมๆกัน ซึ่งอาจมีเหตุจากที่ ผู้โดยสารอาจต้องหารถต่อ ในระบบอื่นที่ยากขึ้น เช่น แท็กซี่  อาจหายากขึ้น เนื่องจากอาจหารถกะกลางคืนยากขึ้น

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางจะบูรณาการร่วมกับ ระบบขนส่งสาธารณะของ ขสมก. อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนสามารถวางแผนการเดินทางได้สะดวกขึ้นต่อไป ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญ และติดตามตลอดจนมอบนโยบายให้ทุกระบบสาธารณะจะต้องประสานงานกัน เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของผู้โดยสารสูงสุด