"ไช่ อิงเหวิน" ประธานาธิบดีหญิงเหล็กไต้หวัน รับตำแหน่งสมัยที่ 2
นางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันได้เริ่มเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 แล้วในวันนี้ (20 พ.ค.) โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างกว้างขวาง หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19”
อย่างไรก็ตาม ไต้หวันภายใต้การปกครองของนางไช่ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ต้องเผชิญหน้ากับจีนที่มุ่งจะบั่นทอนความพยายามของไต้หวันในการเรียกร้องการยอมรับจากนานาชาติ และเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดมากขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นางไช่ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงไทเปก่อนที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ ความสำเร็จของไต้หวันในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ได้รับการชมเชยจากประชาคมโลก อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นความสนใจในกรณีที่ไต้หวันถูกเพิกเฉยจากองค์กรอนามัยโลก (WHO) และความพยายามของจีนในการกีดกันไต้หวันออกจากการยอมรับขององค์กรระหว่างประเทศ
แม้ไต้หวันจะเป็นดินแดนแรกๆ ในโลกที่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอกจีนแผ่นดินใหญ่ (ผู้ป่วยคนแรกในไต้หวันได้รับการยืนยันเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2563) แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไต้หวัน ณ วันที่ 16 พ.ค. 2563 กลับอยู่ในระดับต่ำ โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมมีเพียง 440 คน และมีผู้เสียชีวิต 7 คน ขณะที่วิถีการดำเนินชีวิตของชาวไต้หวันในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาก็เป็นไปอย่างปกติ ไม่มีการปิดเมือง หรือ ล็อกดาวน์ แต่มีการปิดประเทศ ไม่ให้ต่างชาติเข้าตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.เป็นต้นมา
ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์แสดงความยินดี ว่าไต้หวันเป็น "พันธมิตรที่ไว้วางใจได้" ของสหรัฐฯ "เรามีวิสัยทัศน์ร่วมกันสำหรับภูมิภาคนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ กฎหมาย ความโปร่งใส ความรุ่งเรือง และความมั่นคงของทุกคน ผมมั่นใจว่า การดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีไช่สมัยที่ 2 นั้น จะสานต่อความร่วมมือของสหรัฐและไต้หวันให้รุ่งโรจน์ต่อไป"
ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เลือกดำเนินนโยบายผูกมิตรกับไต้หวัน และใช้วิธีเผชิญหน้ากับจีนที่มองไต้หวันว่าเป็นจังหวัดหนึ่งของจีน ซึ่งรอวันที่จะกลับมารวมกับจีนอีกครั้ง และจีนเคยประกาศว่าอาจต้องใช้กำลังกับไต้หวันหากจำเป็น