ร้อง สอบ "ค่าไฟแพง” แนะลดมากว่า 50 สต.ต่อหน่วย

13 พ.ค. 2563 | 09:29 น.

เครือข่ายปชช.ร้องผู้ตรวจฯสอบ "ค่าไฟแพง" ชี้ไม่สัมพันธ์การอ่อนตัวราคาก๊าซโลก –ค่าเงิน ควรลดมากว่า 50 สต./หน่วย

ร้อง สอบ "ค่าไฟแพง” แนะลดมากว่า 50 สต.ต่อหน่วย

 

วันที่ 13 พ.ค.63  เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ  นำโดย พท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี เลขาธิการ เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้"ตรวจสอบการคิดค่าไฟฟ้า"และมีข้อเสนอต่อคณะกรรมการการกำกับกิจการพลังงาน คณะกรรมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อให้ปรับลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน   พท.พญ.กมลพรรณ กล่าวว่า หลักการคิดค่าไฟฟ้าจะคำนวณมาจากราคาก๊าซของตลาดโลกและค่าเงิน  ซึ่ง ในปี 2563  ราคาแก๊สและค่าเงินบาทของไทยอ่อนตัวกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา

 

โดยในปี 2560  ราคาก๊าซโลกอยู่ที่ 2-3 เหรียญต่อล้านบีทียู หรือ ประมาณ 100 บาท   ราคาแก๊สไทยที่ใช้คิดค่าไฟฟ้าอยู่ที่  224  บาท ต่อ ล้านบีทียู และค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ 31 – 30 บาท  ขณะที่ปี 2562 เคลื่อนไหวอยู่ที่  31-32 บาท

 

 

แต่ในปี 2563  ราคาก๊าซในตลาดโลกลดลงเหลือ 1-2 เหรียญต่อล้านบีทียู หรือประมาณ 50-60  บาท   ดังนั้นการที่การไฟฟ้าประกาศลดค่าไฟฟ้า 3 เปอร์เซ็นต์  หรือที่ระบุว่าหากใช้มากจะลด 50 เปอร์เซ็นต์ ทางเครือข่ายก็ยังเห็นว่าเป็นการลดค่าไฟแบบไม่เป็นธรรม  ควรที่จะลดมากกว่า 37 สตางค์ต่อหน่วยหรือลดได้ถึง 50สตางค์ต่อหน่วยด้วยซ้ำ  เพราะเมื่อไปดูรายได้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้า พบว่ามีกำไรสะสมอยู่จำนวนมาก

 

ขณะที่รายได้ของ ปตท.สผ.ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานแหล่งบงกฎใต้ ก็มีกำไรพุ่งขึ้นมาโดยตลอด  จึงอยากให้ผู้ตรวจดำเนินการตรวจสอบการคำนวณค่าไฟฟ้าในแต่ละช่วง ของระยะเวลาตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน   ว่ามีการใช้ตัวเลขใดในการคำนวณ   การซื้อไฟฟ้าที่ กฟผ.ซื้อจากเอกขน  ใช้หลักเกณฑ์ใดในการกำหนดราคาซื้อ-ขาย และมีสัดส่วนในการซื้อจากเอกชนรายใดบ้าง จำนวนเท่าใด  สูตรในการคำนวณเอามาจากแหล่งใด

 

ด้านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องรhองเรียน  กล่าวว่าจะเร่งนำเรื่องดังกล่าวเสนอให้ผู้ตรวจฯพิจารณาโดยเร็ว