"ขนส่งฯ"เข้มเว้นระยะห่างผู้โดยสาร

09 พ.ค. 2563 | 04:41 น.

กรมขนส่งทางบก ชู มาตราการ เข้ม เว้นระยะห่าง กำชับทั้งบนรถ-ภายในสถานีขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศแม้ "คลายล็อกดาวน์"

มาตรการคัดกรองผู้โดยสารทุกรายก่อนการเดินทาง รวมถึงตรวจคัดกรองพนักงานขับรถและผู้ประจำรถ ยังคงเข้มข้นป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด  สำหรับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)  แม้ รัฐบาลจะเริ่มคลายล็อกดาวน์บ้างแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกย้ำว่า   หากพบผู้ที่มี"อุณหภูมิ"ร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด รวมทั้งดูแลให้ผู้โดยสารที่เดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด กรอกข้อมูลคำถามสุขภาพ ตามแบบ ต.8-คค ที่ระบุจุดเดินทางที่ออกและจุดหมายปลายทางที่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคติดต่อ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนขึ้นรถโดยสารและตลอดการเดินทาง ,หมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ชนิดเจลหรือน้ำอยู่เสมอ โดยเฉพาะ การเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing จัดที่นั่ง ตามนโยบายที่กำหนดไว้ 1-2 เมตร 

 

อธิบดีเปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม มีมาตรการเข้มงวดป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในระบบขนส่งสาธารณะ กรมการขนส่งทางบกจึงกำชับไปยังผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท รวมถึงผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง ดำเนินการตามนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยใช้มาตราการเว้นระยะห่างทางสังคม 

 

\"ขนส่งฯ\"เข้มเว้นระยะห่างผู้โดยสาร

\"ขนส่งฯ\"เข้มเว้นระยะห่างผู้โดยสาร

 

ล่าสุด สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เช่น กาญจนบุรี นครปฐม นราธิวาส สระแก้ว ศรีสะเกษ นครราชสีมา บุรีรัมย์ นครพนม สมุทรปราการ ชัยภูมิ อุบลราชธานี เชียงราย ลำปาง แพร่ เชียงใหม่ ขอนแก่น เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ อุตรดิตถ์ มหาสารคาม จันทบุรี เพชรบูรณ์ สตูล เลย ฉะเชิงเทรา นครศรีธรรมราช ราชบุรี ดำเนินการตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ทั้งรถโดยสารระหว่างจังหวัด และรถโดยสารภายในจังหวัด จัดที่นั่งภายในรถโดยสารเว้นระยะนั่ง หรือยืนห่างกัน อย่างน้อย 1 เมตร ตามนโยบาย Social Distancing  รวมถึงการจัดพื้นที่นั่งคอยภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร และจัดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือด้วย

นอกจากนี้ ผู้ให้บริการต้องมีมาตรการคัดกรองผู้โดยสารทุกคนก่อนการเดินทาง รวมถึงตรวจคัดกรองพนักงานขับรถและผู้ประจำรถ หากพบผู้ที่มี"อุณหภูมิ"ร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด รวมทั้งดูแลให้ผู้โดยสารที่เดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด กรอกข้อมูลคำถามสุขภาพ ตามแบบ ต.8-คค ที่ระบุจุดเดินทางที่ออกและจุดหมายปลายทางที่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคติดต่อ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนขึ้นรถโดยสารและตลอดการเดินทาง และหมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ชนิดเจลหรือน้ำอยู่เสมอ

 

\"ขนส่งฯ\"เข้มเว้นระยะห่างผู้โดยสาร

ทั้งนี้ ในส่วนของการให้บริการประชาชน ที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ ซึ่งได้มีการประกาศงดการดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถแล้วจนกว่าจะมีการประกาศยกเลิกสถานการณ์  แต่ยังคงให้บริการด้านทะเบียนและภาษีตามปกติ จึงได้กำชับให้มีมาตรการป้องกันทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ดังนี้

 

\"ขนส่งฯ\"เข้มเว้นระยะห่างผู้โดยสาร

 

ให้ตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัด"อุณหภูมิ" ผู้เข้าไปในสถานที่และการบริการสาธารณะ หากพบประชาชนที่มีอาการไข้ หรืออาการต้องสงสัยเข้าข่ายโรคดังกล่าวให้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่โดยเร็ว

ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคพื้นที่ให้บริการภายในสำนักงานขนส่งทุกวัน โดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง เช่น เคาน์เตอร์บริการ ที่จับประตู ที่จับราวบันได ปุ่มกดลิฟต์ เป็นต้น และจัดให้มีสบู่ในห้องน้ำ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่เคาน์เตอร์ให้บริการและจุดประชาสัมพันธ์

 

ดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม " Social Distancing "จัดที่นั่งพักคอยของประชาชน  กำหนดพื้นที่ยืน โดยการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร

 

ประชาสัมพันธ์ให้ใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ https://eservice.dlt.go.th ส่วนรถที่ไม่สามารถใช้บริการชำระภาษีประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์  แนะนำใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ชำระภาษีได้โดยไม่ต้องลงจากรถ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด

 

ขอความร่วมมือประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในการติดต่อราชการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด