พิษโควิด อินทัช ไตรมาสแรกกำไรลดลง

08 พ.ค. 2563 | 12:27 น.

กำไรสทุธิ 2,740 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.6 จากไตรมาสเดียวกันของปีอยู่ที่ 2,904 ล้านบาท

บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน ) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ในวันนี้ว่า อินทัช มีกำไรสทุธิ 2,740 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.6 จากไตรมาสเดียวกันของปีอยู่ที่ 2,904 ล้านบาท ตามการรับรู้ผลกำไรจาก เอไอเอส ลดลงร้อยละ 8.4 มาอยู่ที่ 2,744ล้านบาท 

 

ขณะที่ไทยคมมีผลการดําเนินงานที่ดีขึ้น โดยพลิกจากการรับรู้ผลขาดทุน14 ล้านบาทในไตรมาส1/2562มาเป็นกําไร 82 ล้านบาท 

 

สําหรับกําไรสุทธิของอินทัชเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2562 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45 เนื่องจากการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าและการตัดจําหน่ายสินทรัพย์ของ ไทยคมในไตรมาสก่อนหน้าอย่างไรก็ตาม กําไรปกติจากการดําเนินงานของไทยคมมีการปรับตัวดีขึ้นจึงทําให้กำไรปกติจาการดําเนินงานของ อินทัช เพิ่มขึ้นร้อละ 4 ซึ่งผลประกอบการของเอไอเอสและไทยคมสามารถอธบิ ายได้ดังต่อไปนี้

 

เอไอเอส มีผลกําไรสุทธิ(ที่ไม่รวมผลกระทบจาก TFRS16) ในไตรมาส 1/2563 ที่ 7,004 ล้าบาท ลดลงร้อยละ 7.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการให้บริการโทรศัพทเคลื่อนที่ลดลงร้อยละ 1.1 แต่รายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และรายได้จากการให้บริกานดาต้าเซ็นเตอร์แก่ลูกค่าองค์กรยังคงเติบโตสูงขึ้ยร้อยละ 27 และ 3.5 ตามลําดับ โดยรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลงจากการแข่งขันด้านระบบเติมเงินรวมถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 ซึ่งส่งผลให้รายได้จากกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวลดลง  

รวมถึง ยังได้รับผลจากมาตรการ ล็อกดาวน์ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม ส่งผลให้ต้องปิดให้บริการชั่วคราวที่ AIS Shop, Serenade Club และ AIS Telewiz ในพื้นที่ตามประกาศของภาครัฐ โดยมีผู้ใช้บริการรวม ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 41.1 ล้านราย  ยังคงมีฐานลูกค้าจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 แบ่งเป็นลูกค้าระบบรายเดือน จำนวน 9.1 ล้านราย และมีลูกค้าระบบเติมเงินอยู่ที่ 32.0 ล้านราย

ส่วนไทยคม มีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1/2563 จำนวน 198 ล้านบาท พลิกฟื้นขึ้นอย่างมากจากผลขาดทุนสุทธิใน

ไตรมาสที่ 1/2562 และไตรมาส 4/2562 จำนวน 33 ล้านบาท และ 1,969 ล้านบาท ตามลำดับ โดยกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสนี้ ส่วนหนึ่งเพิ่มขึ้นจากรายการพิเศษ อาทิ ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 238 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว ในไตรมาสที่ 1/2563 บริษัทมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติเป็นจำนวน 105 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานปกติ จำนวน 4 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2562 และ 271 ล้านบาทในไตรมาส 4/2562 เนื่องมาจากการลดลงของค่าเสื่อมราคาของดาวเทียม จากการปลดระวางดาวเทียมไทยคม 5 รวมทั้งการด้อยค่าของดาวเทียมดวงอื่นๆในปี 2562 และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ