MEA-PEA ยันไม่มีการตัดไฟช่วงโควิด

07 พ.ค. 2563 | 07:10 น.

2 การไฟฟ้าออกโรงยืนยันไม่มีการตัดไฟช่วงโควิด-19 ชี้เข้าใจประชาชนมีค่าใช้จ่ายมาก เผย MEA ให้ชำระค่าไฟหลังวันที่ 12 พฤษภาคม ขณะที่ PEA ชำระหลังวันที่ 8 พฤษภาคม จะมีการปรับส่วนลดอัตโนมัติ

หลังจากที่เกิดกระแสความสับสนเรื่องการชำระค่าไฟฟ้าภายใต้มาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ล่าสุดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ต้องออกมาเปิดแถลงข่าวร่วมกันเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ใช้ไฟฟ้า              

              นายจาตุรงค์  สุริยาศศิน  ผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA ในฐานะโฆษก MEA กล่าวว่า MEA ไม่มีนโยบายการตัดไฟฟ้า  หรือชะลอการงดจ่ายไฟฟ้าออกไปในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับประเภทบ้านอยู่อาศัย โดยจะไม่มีการออกหนังสือเตือน  หรือทำการเร่งรัดให้มาชำระค่าไฟ  เพราะเข้าใจว่าประชาชนมีภาระที่จะต้องใช้จ่ายเงิน  ดังนั้น  จึงพยายามที่จะยืดหยุ่นให้มากที่สุด  แม้ว่าจะยังไม่ได้ชำระค่าไฟตามรอบบิลปัจจุบัน

MEA-PEA ยันไม่มีการตัดไฟช่วงโควิด

              ทั้งนี้  มาตรการช่วยเหลือของ MEA ประกอบด้วย  1. ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.1 โดยให้สังเกตจากบิลค่าไฟฟ้าที่มุมขวาบนหากระบุว่าเป็น 1.1 จะได้รับสิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี เป็นเวลา 3 เดือน ของค่าไฟฟ้าเดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม 63

2.ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.2 (มิเตอร์ไฟขนาด 5 แอมป์ หรือ 15 แอมป์ขึ้นไป) ให้สังเกตุที่มุมบนขวาของบิลค่าไฟ  และประเภท 1.3 (ผู้ใช้ไฟในอัตรา TOU มิเตอร์  หรืออัตราค่าไฟฟ้าตามเวลาของวัน เช่น กลางวันราคาหนึ่ง  กลางคืนราคาหนึ่ง  และวันเสาร์-อาทิตย์ใช้ราคากลางคืน) จะได้รับสิทธิ์ส่วนลดการใช้ไฟฟ้าเป็นเวลา 3 เดือน ในค่าไฟฟ้าของเดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม 2563 โดยเทียบหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนฐาน

2.1 หากมีการใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าหน่วยเดือนฐาน คิดค่าไฟฟ้าตามที่ใช้จริง

2.2 หากมีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 800 หน่วยต่อเดือน คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับเดือนฐาน

2.3 หากมีการใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 801 - 3,000 หน่วยต่อเดือน คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยเดือนฐาน บวก 50% ของจำนวนหน่วยที่เกินจากเดือนฐาน

2.4 หากมีการใช้ไฟฟ้ามากกว่า 3,000 หน่วยต่อเดือนขึ้นไป คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยเดือนฐาน บวก 70% ของจำนวนหน่วยที่เกินจากเดือนฐาน

หน่วยที่ใช้ในแต่ละเดือน สามารถตรวจสอบจากใบแจ้งค่าไฟฟ้าตามรอบการจดหน่วยดังนี้  หน่วยเดือนกุมภาพันธ์ 63 เป็นฐานในการอ้างอิง ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 13 มีนาคม 63

MEA-PEA ยันไม่มีการตัดไฟช่วงโควิด
            หน่วยเดือนมีนาคม 63 ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 มีนาคม ถึงวันที่ 13 เมษายน 63

หน่วยเดือนเมษายน 63 ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 เมษายน ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 63

หน่วยเดือนพฤษภาคม 63 ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 พฤษภาคม ถึงวันที่ 13 มิถุนายน 63

“การจดหน่วยของ MEA จะดำเนินการทุกวัน  เพราะฉะนั้นคำนิยามตรงนี้จะมีการตัดรอบสำหรับการเรียกใบแจ้งหนี้  หรือการใช้ไฟเดือนกุมภาพันธ์โดยบ้านแรกที่จดหน่วยคือวันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันเริ่มต้น  ซึ่งแต่ละบ้านจะมีการจดไม่เหมือนกัน  จนบ้านสุดท้ายจะมีการจดหน่วยวันที่ 13 มีนาคม  ผู้ใช้ที่มีใบแจ้งหนี้ดังกล่าวให้เก็บไว้  เพราะจะเป็นใบที่เป็นหน่วยฐานในการคำนวณการชำระค่าไฟเดือนมีนาคมถึงพฤษภามคม  เรียกว่าให้สังเกตุจากวันที่จดหน่วยเป็นของเดือนอะไรก็คือบิลค่าไฟเดือนนั้น  เพราะของ MEA จะไม่ได้มีการระบุชื่อเดือน”

MEA-PEA ยันไม่มีการตัดไฟช่วงโควิด

สำหรับกรณีที่ผู้ใช้ไฟยังไม่ได้ชำระเงินนั้น MEA ได้มีการปรับโปรแกรมตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 63 เป็นต้นไป ใบแจ้งหนี้จะมีการปรับตัวเลขที่มีส่วนลดแล้ว  โดยผู้ใดที่ได้รับบิลค่าไฟที่ยังไม่ได้รับส่วนลด  สามารถนำบิลไปชำระได้ทุกช่องทางหลังวันที่ 12 พฤษภาคม 63 เป็นต้นไป MEA จะมีการปรับตัวเลขให้โดยอัตโนมัติ  ส่วนกรณีได้ชำระค่าไฟไปแล้วโดยที่ยังไม่ได้สิทธิ์ส่วนลด MEA จะคืนเงินโดยหักลดในค่าไฟเดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะครบตามจำนวนเงินที่จ่ายเกินไป ทั้งนี้สามารถตรวจสอบค่าไฟฟ้าและสิทธิ์ส่วนลดการใช้ไฟฟ้าตามมาตรการนี้ได้ที่ www.mea.or.th ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป

“กรณีที่ผู้ใช้ไฟได้รับใบแจ้งหนี้หลังวันที่ 12 พฤษภาคม 63 บิลดังกล่าวจะมีการหักส่วนลดให้เรียบร้อยแล้ว” 

นายวิโรจน์  บัวคลี่  ผู้ช่วยผู้ว่าการ PEA ในฐานะโฆษก PEA เปิดเผยว่า PEA ไม่นโยบายการตัดไฟในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  เช่นเดียวกันตามคำว่าสั่งของผู้ว่าการ PEA จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยประเภทที่ 1.1.1 / 1.1.2 และ 1.2 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2563 โดยใช้หน่วยการใช้ไฟฟ้าตามใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นหน่วยเดือนฐานในการเปรียบเทียบการคำนวณค่าไฟฟ้าตามมาตรการที่กำหนด

MEA-PEA ยันไม่มีการตัดไฟช่วงโควิด

หากผู้ใช้ไฟฟ้าได้ชำระค่าไฟฟ้าเดือนมีนาคม – เมษายน 2563 ไปแล้ว PEA จะดำเนินการคืนค่าไฟฟ้าโดยหักคืนเป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าในเดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะครบตามยอดเงินที่ได้ชำระมาแล้ว ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ยังไม่ได้ชำระค่าไฟฟ้าเดือนเมษายน 2563 สามารถชำระได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 และตรวจสอบค่าไฟฟ้าผ่าน www.pea.co.th ,PEA Smart Plus, 1129 PEA Call Center และ สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่

MEA-PEA ยันไม่มีการตัดไฟช่วงโควิด
สำหรับ ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ชำระค่าไฟฟ้าเดือนเมษายน 2563 ผ่านบัญชีธนาคาร หรือ บัตรเครดิต ระบบจะตัดบัญชี/บัตรเครดิต ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ด้วยยอดเงินที่ปรับปรุงตามมาตรการแล้ว  โดย PEA จะไม่มีการออกบิลใหม่ให้แต่อย่างใด  แต่จะมีการหักส่วนลดให้โดยอัตโนมัติ

              “หลักการก็คือให้ดูที่บิลค่าไฟ  ของ PEA จะระบุตัวเลขเลยว่าเป็นของเดือนอะไร  หลังจากนั้นให้ไปดูที่ช่องประเภทหาก 3 หลักแรกเป็น 111 ก็คือเป็นผู้ใช้ประเภท 1.1.1 หรือหาก 3 หลักแรกเป็น 112 คือผู้ใช้ไฟประเภท 1.1.2 และหาก 2 หลักแรกเป็น 12 คือเป็นผู้ใช้ไฟประเภท 1.2

              วิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า จำนวนผู้ใช้ไฟของทั้ง  2 การไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 22 ล้านราย มีวงเงินประมาณ 2.36 หมื่นล้านบาท โดยของ MEA มีลูกค้าที่ได้สิทธิ์ตามส่วนลดค่าไฟประมาณ 3.5 ล้านราย  ใช้วงเงินทั้งสิ้นประมาณ 6 พันล้านบาท ส่วนของ PEA มีผู้ที่ได้รับสิทธิ์ประมาณ 19 ล้านราย ใช้วงเงินทั้งสิ้น 1.7 หมื่นล้านบาท