ศบค.เคาะ 17 พ.ค. คลายล็อกดาวน์ระยะที่ 2

07 พ.ค. 2563 | 05:06 น.

เตรียม คลายล็อกดาวน์ระยะที่ 2 โฆษกศบค. เผยเลขาฯ สมช.เคาะไทม์ไลน์ "17 พ.ค."นี้

วันที่ 7 พ.ค.  63 เวลา 11.30 น. นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยว่าวันนี้มีการประชุมศบค.ชุดใหญ่ โดยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้เปิดเผยถึง ไทม์ไลน์ (timeline) การ"คลายล็อกดาวน์" หรือ ผ่อนปรนในการเปิดกิจการระยะที่ 2 โดยคร่าวๆมีการเตรียมการ ระหว่างวันที่ 8-12 พ.ค. จะเป็นการรับฟัความคิดเห็นหลังประกาศผ่อนปรนมาตรการ 3 พ.ค. จะฟังความคิดเห็นประกอบกับ ดูข้อมูลเชิงสถิติ สถานการณ์ 

จากนั้นวันที่ 13 พ.ค. จะซักซ้อมทำความเข้าใจ  วันที่ 14 พ.ค. จะมีการยกร่างมาตรการผ่อนปรนเพื่อนำเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และวันที่ 17 พ.ค. จะมีการประกาศและเริ่มมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 

"เป็นข่าวดีที่ต้องช่วยเดินไปด้วยกัน ก่อนถึง 17 พ.ค. ระหว่างนี้อีกสิบวันข้างหน้าจะเข้าระยะสองได้ จะเป็นกิจการที่ขยายใหญ่มากขึ้น คนพลุกพล่านมากขึ้น ถ้ากิจการขนาดเล็กไม่มีปัญหาใดใด ระยะที่สองก็จะเกิดขึ้น ต้องขอความร่วมมือทุกท่าน"

 
โฆษก ศบค. ชี้แจงด้วยว่า ไม่เพียงแค่ห้างสรรพสินค้า หากผู้ประกอบการมีมาตรการที่ดี มีความพร้อม ร่วมกลุ่มกันหรือเป็นสมาคมหรือองค์กร เพื่อจัดทำมาตรการรวมถึงการตรวจสอบกันและกัน ถือเป็นการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคประชาสังคมและภาคประชาชนต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดขึ้น เพื่อให้สามารถผ่านมาตรการผ่อนปรนในระยะแรก และสามารถเริ่มการผ่อนปรนมาตรการในระยะ 2 ได้

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) หรือ ทีวีพูล ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พรก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19

จากนั้นได้มีคำสั่งปิดสถานที่ต่างๆเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามมาอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาในวันที่ 30 เมษายน ศบค. มีมติให้รผ่อนคลายกิจการ กิจกรรมต่างๆ หรือผ่อนคลาย"ล็อกดาวน์" ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19

จากนั้นในวันที่ 1 พฤษภาคม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา  9 แห่งพระราชกำหนดกำรบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือ พรก.ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 6) ผ่อนคลาย “ล็อกดาวน์” ให้ดําเนินการหรือทํากิจกรรมบางอย่าง เพื่อเป็นการอํานวยความสะดวกแก่ประชาชนในการทํากิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดําเนินชีวิต ตลอดจนด้าน การออกกําลังกายหรือการดูแลรักษาสุขภาพ โดยให้ผลในวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข้อกำหนดพรก.ฉุกเฉิน ผ่อนคลาย “ล็อกดาวน์”ธุรกิจ-กิจกรรม

ประกาศศบค.แนวปฎิบัติสำหรับผู้ประกอบการหลังผ่อนปรนมาตรการ

อัพเดท"พรก.ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิว-คำสั่งศบค."