หลุมพระเทวทัต

06 พ.ค. 2563 | 17:00 น.

คอลัมน์ ทำมา..ธรรมะ

Facebook ราช รามัญ

          ตำนานเรื่องของพระเทวทัต ซึ่งแม้เป็นพระญาติสนิทของพระพุทธเจ้า ที่มีใจหลงผิดคิดทำร้ายพระพุทธเจ้า ตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาสกระทั่งออกบวช ทำทุกอย่างทุกวิธีที่จะที่ให้พระพุทธเจ้านั้นสิ้นไปจากโลกใบนี้ 

          จากที่เราได้ยินได้ฟัง ได้อ่านในมุมอันชั่วร้ายของพระเทวทัตเราต่างก็คิดไปเอาเองว่า ทำไมพระรูปนี้จึงชั่วจัง แล้วก็พยายามเอาท่านไปเปรียบกับคนไม่ดี ว่าเหมือนท่าน ความจริงไม่ควรนำเอาไปเปรียบเทียบใดๆทั้งสิ้นเพราะในชาติหน้ากาลต่อมาพระเทวทัต รูปนี้แหละ ที่จะได้สำเร็จเป็น “พระปัจเจกพุทธเจ้า” คือ ตรัสรู้ธรรมเองแต่ไม่อาจสอนผู้ใดให้ล่วงรู้ตามได้

          แต่คนธรรมดาๆทั่วๆไปที่ทำดีบ้างชั่วบ้างนั้น ตายแล้วจะได้เกิดใหม่เป็นอะไรก็ยังไม่รู้เลย ยังมีคติที่ไม่แน่นอน ดังนั้นไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเอาพระเทวทัตไปเปรียบเทียบกับผู้ใด 

          อีกสิ่งหนึ่งพระเทวทัตเปรียบเหมือนคู่บารมีของพระพุทธเจ้าในฝ่ายดำ เพราะคนเรา “มารไม่มีบารมีไม่เกิด มารไม่มีบารมีไม่แก่กล้า” การเอาพระเทวทัตผู้คติชัดแล้วว่าจะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าไปเปรียบเทียบกับบุคคลธรรมดาย่อมเป็นบาปอย่างหนึ่งด้วยเหตุนี้

          เคยมีคนถามว่า พระเทวทัตเป็นเรื่องราวแค่เพียงตำนานเรื่องเล่าหรือเปล่า แล้วกรณีที่ว่าโดนธรณีสูบเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ซึ่งการที่ธรณีจะสูบคนนั้นเป็นเพราะเกิดแผ่นดินไหวหรือไม่ อาจจะเป็นการแต่งเติมเขียนเพื่อให้ดูน่ากลัวเพื่อให้คนไม่ทำความชั่ว

          ไปอินเดียมากว่า 20 ครั้ง แต่ไม่บ่อยนักจะเลี้ยวรถไปไพสาลีแล้วเข้าสู่เขตสาวัตถีเดิม เพราะมันไกลมาก เมื่อมีโอกาสได้ไป ผมก็จะไปยืนหน้าวัดเชตวัน เดินข้ามไปที่วัดศรีลังกา เมื่อเข้าไปที่วัดศรีลังกาเรามองออกไปทางหลังวัดจะเห็นหลุมใหญ่ๆหลุมหนึ่ง ตามภาพที่นำเอามาให้ชม นี่แหละคือ หลุมที่พระเทวทัตโดนธรณีสูบลงไป 

          รอบๆ บริเวณนั้นมีต้นไม้ขึ้นหมด แต่เฉพาะที่หลุมตรงนี้ ไม่มีต้นไม้เกิดขึ้น มีแค่น้ำแฉะๆแค่ตาตุ่ม ผ่านไปกี่ปีกี่ชาติก็เป็นแบบนี้ และที่สำคัญไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ๆด้วย   

หลุมพระเทวทัต

          ดังนั้นตำนานเรื่องของพระเทวทัต จึงไม่ใช่เป็นแค่เพียงเรื่องเล่าธรรมดา ทุกอย่างยังปรากฏอยู่ชัดในประเทศอินเดีย และที่สำคัญเป็นหลักฐานของเรื่องบุญบาปว่ามีอยู่จริง

          ซึ่งตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่พระองค์สอนว่า “สังขตธรรมและอสังขตธรรม” ทุกอย่างบนโลกใบนี้ เมื่อมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นจึงมีอีกสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นตามมาเสมอ หรือ อย่างที่พระภิกษุรูปที่ผมเคารพหมดหัวใจอย่างหลวงพ่อพุทธทาสท่านกล่าวไว้ในหนังสือว่า เพราะมีสิ่งนี้ จึงมีสิ่งนี้ ไม่มีสิ่งนี้ จึงไม่มีสิ่งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งแห่งสัจธรรม