สืบเนื่องจากมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ ( 27 พ.ย.62)ได้กำหนดวัตถุอันตรายพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้กำหนดระยะเวลาบังคับใช้ เลื่อนจาก 1 ธ.ค.62 เป็น 1 มิ.ย. 63 ส่วนวัตถุอันตรายไกลโฟเซต ให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พ.ค.61พร้อมทั้งมอบหมายให้ กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำมาตรการรองรับในการหาสารทดแทน หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสม รวมถึงลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไป และให้นำเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาภายใน 4 เดือน นับจากวันที่มีมติ ล่าสุดมีความเป็นไปได้จะมีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันที่ 30 เมษายนนี้
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ยืนยันมติย้ำจุดแบน 3 สารเคมีพิษเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนในวันพรุ่งนี้ (28 เม.ย.63) เวลา 14.00 น.จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถึงแนวทางในการปฏิบัติว่ามีอะไรรองรับหรือไม่ ซึ่งยอมรับในขณะนี้ว่ายังไม่มี แต่เมื่อคณะกรรการมีมติแบน 2 ตัว ก็คือพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้กำหนดระยะเวลาบังคับใช้ 1 มิถุนายน 2563
แต่ในส่วนสารไกลโฟเซตให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ ถ้ากรมวิชาการเกษตรให้อนุญาตนำเข้ามาโรงงานที่ผลิตจะต้องได้มาตรฐาน ISO ก็ต้องยอมถอยกันคนละก้าวเพราะจะให้ก้าวยอมถอยทั้งหมดคงไม่ได้ ต้องคำนึงถึงสุขภาพก็คือเกษตรกร และผู้บริโภคด้วย
นางสาวมนัญญา กล่าวว่า ความจริงบริษัทต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ต้องเป็นผู้กำจัดในกรณีประเทศไทยสั่งแบนก็ควรที่จะทำลายทิ้งเอง ไม่ใช่นำเงินของรัฐบาลมาทำลาย ซึ่งการออกกฎหมายอะไรมาก็แล้วแต่สรุปว่าเสียเปรียบ ท้ายสุดก็ยืนยันย้ำมติเดิมก็คือแบน 3 สารเคมีพิษ