นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกำกับดูแลกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงบุคคลซึ่งมีการกล่าวแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์ในโครงการขุดลอกร่องน้ำแลกดิน บริเวณแควหนุมาน ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ของกรมเจ้าท่าซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตนกำกับดูแลนั้น โดยคลิปเสียงและข้อมูลที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง และอาจทำให้เข้าใจผิดว่าตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งที่ไม่เคยรู้จักกับบุคคลที่คลิปดังกล่าว เบื้องต้นได้มอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัวไปแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลในคลิปเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ขณะเดียวกันกรมเจ้าท่าได้แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลในคลิปที่ทำให้เกิดความเสียหายแล้ว
นายอธิรัฐ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ จท. ตั้งคณะกรรมาการสอบข้อเท็จจริงด่วนคาดว่า 1-2 สัปดาห์จะได้ข้อสรุป ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21เม.ย.ที่ผ่านมา นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) ได้มีการประชุมด่วนทางไกลกับเจ้าท่าทั่วประเทศโดยกำชับให้เจ้าท่าทุกจังหวัดกลับไปตรวจสอบว่ามีโครงการใดมีเรื่องร้องเรียนเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หากพบว่าโครงการใดมีการร้องเรียนให้สั่งการให้หยุดดำเนินการทันที รวมทั้งให้ชะลอการขออนุมัติโครงการรายใหม่ออกไปก่อน ปัจจุบันมีโครงการที่จะต้องดำเนินการรวมกว่า 100 โครงการ
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) กล่าวว่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว กรณีที่มีข่าวการเรียกรับเงินจากผู้รับเหมาในโครงการขุดลอกร่องน้ำแควหนุมาน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยมีนายสุวิทย์ ดอกคำ ผู้อำนวยการกองกำกับการพาณิชยนาวี เป็นประธานคณะทำงานเนื่องจากส่งผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อส่วนราชการ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐาน และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายใน 7วัน และรายงานผลเสนออธิบดีกรมเจ้าท่า เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้กรมเจ้าท่าได้ทำหนังสือถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 2 เรื่องขอร้องทุกข์และกล่าวโทษกรณีดังกล่าวด้วย เนื่องจากมีการกล่าวอ้างว่าจะนำเงินไปให้อธิบดีกรมเจ้าทำ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่า รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอในการอนุญาตให้ขุดลอกร่องน้ำต่างตอบแทน ซึ่งส่งผลเสียหายต่อกรมเจ้าท่าอย่างร้ายแรง จึงขอให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตามกรมเจ้าท่ามีหนังสือสั่งการและกำชับให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าที่เกี่ยวข้องกับงานขุดลอกต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและห้ามเรียกรับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการทางวินัยและตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ขณะเดียวกันได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมให้รับทราบถึงการดำเนินการดังกล่าวแล้ว