วันนี้(20 เม.ย.63) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ตนได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบว่าสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้รับข้อร้องเรียน ข้อเสนอแนะ และความคิดเห็น ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ผ่านโทรศัพท์สายด่วน 1111 ระหว่างวันที่ 5 มี.ค.-18 เม.ย.63 รวม 149,937 เรื่อง
อันดับ 1 คือ เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาต่างๆ อาทิ การช่วยเหลือด้านการเงิน สิทธิ์การรักษาพยาบาล การแจกหน้ากากอนามัย จำนวน 97,962 เรื่อง ซึ่งคิดเป็น 65.34%
อันดับ 2 แนวทางการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐ อาทิ การขอข้อมูลประกาศและกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องโควิด การจัดกิจกรรม ต่างๆ การคัดกรองและดูแลผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 26,521 เรื่อง คิดเป็น 17.69%
อันดับ 3 การให้บริการด้านสาธารณสุข เช่น ขอข้อมูล แนวทางป้องกัน สถานที่และการควบคุมขำหน่ายสินค้า เป็นต้น 21,148 เรื่อง คิดเป็น 14.1%
อันดับ 4 การแจ้งขอความช่วยเหลือของประชาชน อาทิ กรณียาและเวชภัณฑ์ไม่เพียงพอหรือไม่มีคุณภาพและมีราคาสูง รวมทั้งร้องเรียนให้ปรับปรุงการบริการของหน่วยงาน 4,306 เรื่อง คิดเป็น 2.87%
การให้บริการในภาพรวม พบว่าเรื่องร้องเรียนที่ยุติเรื่องแล้ว 148,630 เรื่องคิดเป็น 99.13% และรอผลการดำเนินงานจากหน่วยงาน 1,307 เรื่อง คิดเป็น 0.87%
นอกจากนี้ มีการแจ้งเบาะแสและแจ้งเหตุต่างๆ เช่น การจัดกิจกรรมที่ส่งผลกระทบ ทั้งการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมสังสรรค์ ประชาชนรวมตัวรับสิ่งของบริจาค ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อ การแจ้งเบาะแสการลักลอบเล่นพนัน การเปิดร้านจำหน่ายสุรา เป็นต้น
ส่วนข้อเสนอแนะจากประชาชนถึงรัฐบาล เป็นเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการป้องกัน การเยียวยา และการให้ความช่วยเหลือประชาชน เช่น การช่วยเหลือแรงงาน ปรับลดค่าบำรุงการศึกษา พักชำระหนี้จากสถาบันการเงิน การช่วยเหลือผู้พิการ การป้องกันแพร่ระบาดในเรือนจำ เป็นต้น