โควิด-19 ดิสรัปต์อสังหาฯ สู่โมเดลธุรกิจใหม่

ผ่ามุมคิด

 ผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่เพียงทุบทุกธุรกิจ ฉุดยอดขายร่วงทุกอุตสาหกรรม และลากจีดีพีประเทศทิ้งดิ่ง แต่นับหลังจากนี้จะนำมาซึ่งภาพการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมคนในสังคมอย่างสิ้นเชิงด้วย ซึ่งรวมไปถึงรูปแบบการทำธุรกิจ ที่ต้องสอดรับปรับตามไปด้วย ขณะภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น เผชิญยอดขายตํ่าสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่าไวรัสดังกล่าว กลายเป็นกระแสความปั่นป่วน หรือ ดิสรัปชันที่เกิดขึ้นรวดเร็วกว่าปกติ คาดส่งผลให้เกิด New Normal ต่อวงการในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสำคัญสุด คือการ “เตรียมรับมือ” ของ

ผู้ประกอบการ ตั้งแต่การพัฒนาสินค้า การตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนวิธีคิด และกระบวนการทำธุรกิจที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ตลาดหดตัว 15-30%

 สำหรับสถานการณ์ระยะสั้นของตลาดอสังหาฯ พบภาพรวมดีมานด์ หรือความต้องการทั้งปี 2563 มีแนวโน้มปรับตัวลดลง 15-30% ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า COVID-19 จะจบช้าหรือเร็วแค่ไหน ซึ่งในแง่การขายของผู้ประกอบการ มองว่าหากไม่ทำอะไรเลย หรือใช้เพียงวิธีการเดิมๆ ที่เคยทำมา เช่น โปรโมตโครงการผ่านสื่อกลุ่ม Out of Home ผู้ประกอบการเองก็มีโอกาสจะโดนดิสรัปต์ ไปพร้อมตลาดที่ดีมานด์หดตัว 15-30% เช่นกัน ขณะเดียวกันการรับมือในเชิงการบริหารบุคคลในองค์กรก็เป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งบริษัทเองได้ปรับวัฒนธรรมองค์กรใหม่ ผลักดันพนักงานในเครือทั้ง 1,200 คน มาเสริมทัพเป็นทีมฝ่ายขายและการตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางการขายให้มากขึ้น เกิดตัวเลขยอดขายจากโปรเจ็กต์ดังกล่าวถึง 500 ล้านบาทในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา

แพลตฟอร์มออนไลน์

 ส่วนระยะยาวนั้น คือ พฤติกรรมการซื้ออสังหาฯ ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป พบการ Work From Home อาจกลายเป็นตัวเร่งให้อสังหาฯ ไม่ต่างจากสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป แม้เป็นสินทรัพย์ขนาดใหญ่ แต่ในอนาคตผู้บริโภคจะเริ่มยอมรับได้กับการซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ผ่านคลิปวิดีโอรีวิว โดยไม่ต้องเห็นห้องตัวอย่างจริงจากโครงการ และใช้วิธีเปรียบเทียบแต่ละโครงการ แทนการตระเวนสำรวจทีละ 5-10 โครงการด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับแพลตฟอร์มการขายอสังหาฯ ออนไลน์ ที่ชื่อ เหย่าลู่ ในประเทศจีน ที่สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 1 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งกว่า 40% ของผู้ซื้อตัดสินใจโดยไม่ต้องไปเยี่ยมชมโครงการ

 “ต่อไปในไทยเอง อาจได้เห็นผู้ประกอบการ หันมาแข่งกันขายคอนโดฯผ่านออนไลน์มากขึ้น เช่น ไลฟ์ขายของพร้อมโปรโมชันแบบจำกัดช่วงเวลาเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เกิดเร็วขึ้น ทั้งนี้ บริษัท ได้เริ่มบนแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada แล้วเช่นกัน” แตกไลน์ธุรกิจ ขับเคลื่อนความเป็น Disruptor

ภาคโรงแรมรอวันฟื้น

 นายพีระพงศ์ กล่าวต่อว่า อสังหาฯ อื่นๆ ยังสามารถลุยต่อได้ เช่น ธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะโรงแรมเพื่อการเข้าพักเชิงธุรกิจ ที่ผู้เข้าพักส่วนใหญ่เป็นผู้เข้าพักระยะยาว พบไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ดี คาดภาพรวมธุรกิจโรงแรมจะกลับมาฟื้นตัวได้หลังสถานการณ์จบแน่นอน เนื่องจากผู้คนยังคงต้องการท่องเที่ยว ดีมานด์ที่ถูกอั้นไว้ในช่วงนี้จะระเบิดออกมาหลังสถานการณ์คลี่คลาย

สร้างดิสรัปเตอร์

ทั้งนี้ ในระหว่างวิกฤตินั้น อยากสะท้อนว่า เราต้องปรับตัวเอง เป็น Disruptor คิดให้ออกว่าลูกค้าต้องการอะไร แล้วเปลี่ยนแปลง ปรับตัว ปรับสภาพแวดล้อมทันที เพื่อให้เข้ากับการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนไป บริษัทเอง เราอาศัยการออกไอเดียใหม่ๆ อย่างสมํ่าเสมอ ช่วยให้การเปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนองค์กรทำได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการทยอยเพิ่มบริการใหม่ๆ ตลอดจนธุรกิจใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค เช่น การบริการฉีดยาฆ่าเชื้อ และธุรกิจอาหารที่อยู่ระหว่างการพัฒนาขณะนี้ ทั้งหมดล้วนตอบโจทย์ New Normal ของผู้บริโภคยุคต่อไปได้

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,565 วันที่ 12-15 เมษายน 2563