อดีตปธ.เฟดชี้ โควิดทำศก.ชะลอ “รวดเร็วและรุนแรง”

ในสถานการณ์ที่ดีที่สุดนั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอยแบบดำดิ่งเป็นรูปตัว V และน่าวิตกว่าอาจยืดเยื้อ แต่ไม่อาจคาดการณ์ล่วงหน้าว่า การถดถอยทางเศรษฐกิจจะรุนแรงมากน้อยเพียงใด

นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) เปิดเผยวานนี้ (30 มี.ค.)ว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น เป็นไปอย่าง “รวดเร็วและรุนแรง” เป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดการณ์ความรุนแรงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในขณะนี้

นางเยลเลนซึ่งเคยเป็นประธานเฟดในช่วงปีพ.ศ. 2557-2561 แสดงความเห็นในการสัมมนาผ่านเว็บที่จัดโดยสถาบันบรูคกิงส์ว่า "การชะลอตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง และแตกต่างจากที่เราเคยมีประสบการณ์มาในสหรัฐฯ สิ่งบ่งชี้ทุกตัวจนถึงขณะนี้แสดงว่า การผลิตของสหรัฐฯจะร่วงลงอย่างมากในไตรมาส 2"

นางเยลเลนตั้งข้อสังเกตว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก 3.3 ล้านรายที่รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (26 มี.ค.) บ่งชี้ว่า อัตราการว่างงานอาจพุ่งขึ้นแล้วสู่ระดับ 5.5% หรือมากกว่านั้น โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจาก 3.5% ในเดือนก.พ.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี

"เป็นไปไม่ได้ที่จะทราบ ณ จุดนี้ว่า ภาวะถดถอยจะรุนแรงเพียงใด มันขึ้นอยู่กับว่าจะมีการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) เป็นระยะเวลายาวนานแค่ไหน"       

นางเยลเลนกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ที่ดีที่สุดนั้นจะเป็นภาวะถดถอยแบบรูปตัว V แต่น่าวิตกว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยที่ยืดเยื้อ หากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดทำให้มีการเลิกจ้างพนักงาน และบริษัทต่าง ๆ ประสบกับภาวะล้มละลายจำนวนมากขึ้น