จับไข่แพงเพิ่มอีก2ราย ขยายเวลาห้ามส่งออกอีก30วัน

27 มี.ค. 2563 | 11:10 น.

จุรินทร์ ลุยจับ กลุ่มฉวยโอกาส ขายไข่แพงเกินราคาซ้ำเติม  ล่าสุดจับได้อีก2รายใหญ่ที่นครปฐมและนครสวรรค์ รวมแล้วจับกุมไป8ราย  พร้อมขออำนาจจากบอร์ดกกร. สามารถใช้ดุลพินิจ ขยายเวลาห้ามส่งออกไข่ไก่ต่อไปได้ อีก 30 วัน หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม คณะทำงานเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคระดับจังหวัด ว่าล่าสุดวันนี้ มีการดำเนินคดีผู้ค้าที่ฉวยโอกาสจำหน่ายไขไก่ราคาแพงอีก2ราย ที่ฟาร์มไข่ไก่ ที่อ.บางเลน จังหวัดนครปฐม ขายราคาหน้าฟาร์มที่  3.80 บาทต่อฟอง จากราคาที่สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ประกาศฟองละ 2.80 บาท และ มีการจับกุมที่ฟาร์มกนกวรรณ อ. บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ขายไข่ไก่คละ หน้าฟาร์มราคาฟองละเฉลี่ย 3.20 บาทจากราคาที่ประกาศ 2.80 บาท

จับไข่แพงเพิ่มอีก2ราย  ขยายเวลาห้ามส่งออกอีก30วัน

“ปัญหาที่ไข่ในตลาดในขณะนี้ยังมีไม่เพียงพอเนื่องจากว่าผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยมีความต้องการที่จะซื้อไข่ไปเก็บไว้เพื่อบริโภคที่บ้านในปริมาณที่มากกว่าปกติทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ไข่ไก่ที่ผลิตได้ในประเทศ จำเป็นต้องส่งออกด้วยซ้ำจากภาวะล้นตลาดในปีที่ผ่านมา ที่ รัฐต้องมีมาตรการส่งเสริมการส่งออกและช่วยอุดหนุนการส่งออกไข่ไก่ฟองละ 46 สตางค์ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ขณะนี้หลายห้างสรรพสินค้าได้ใช้มาตรการจำกัดปริมาณการซื้อไม่ให้ซื้อไปเก็บไว้สำหรับคนคนเดียวมากเกินไปทำให้คนอื่นไม่มีโอกาสได้ซื้อและเท่าที่ติดตามจะมีไข่ชุดใหม่ออกมาสู่ตลาดทุกๆวัน”

จับไข่แพงเพิ่มอีก2ราย  ขยายเวลาห้ามส่งออกอีก30วัน

สำหรับผู้ที่กักตุนทำให้ไข่ขาดตลาดและพวกที่คิดจะลักลอบนำไข่ออกไปบริเวณชายแดนรวมทั้งผู้ที่ขายเกินราคาจะต้องถูกกำหนดดำเนินคดีโดยเด็ดขาดโดยคณะกรรมการป้องกันการกักตุนสินค้าและการค้ากำไรเกินควรที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน

สำหรับปริมาณการผลิตไข่ไก่ปัจจุบัน มี กำลังการผลิควันละประมาณ 41  ล้านฟอง ส่วนการบริโภคในประเทศในภาวะปกติ จะอยู่ที่ประมาณ 39  ล้านฟองต่อวัน   แต่ ช่วงนี้ความต้องการในประเทศเพิ่มสูงขึ้นมา 3 เท่า ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการที่จะทำให้ ผลผลิตไข่ 41 ล้านฟอง ต่อวัน สามารถสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดจึงออกมาตรการห้ามส่งออกไข่ไก่ไปนอกราชอาณาจักรเนื่องจาก มีข้อมูลบางส่วนว่าอาจจะมีการลักลอบส่งออกตามบริเวณชายแดน ที่อาจจะทำให้ปริมาณการขายในประเทศไม่เพียงพอ ส่วนผู้ที่กักตุนไข่ไว้ทำให้ไข่ไม่สามารถออกสู่ตลาดได้ตามปกติจะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดในข้อหากักตุนและค้ากำไรเกินควรซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

จับไข่แพงเพิ่มอีก2ราย  ขยายเวลาห้ามส่งออกอีก30วัน

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ได้จับกุ่มผู้ค้าที่จำหน่ายไข่จากเมื่อวานนี้(26มีนาคม)ที่จังหวัดพิษณุโลกที่ค้ากำไรเกินควรและ ได้มีการจับกุมเพิ่มเติม ที่เขตราชเทวีคือร้านไข่ไก่สวนฟาร์มกิตติคุณซึ่งขายไข่ไก่เบอร์ศูนย์ราคา 200 บาทต่อแผงและได้ส่งดำเนินคดีที่สน. ดินแดงแล้ว ,ร้านเจ๊ใหญ่ที่อำเภอเมืองปทุมธานีขายไข่ไก่แผงละ 170 บาทซึ่งถือเป็นการค้ากำไรเกินควรและร้านข้างตลาดบ่อนไก่อำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์ซึ่งขายไข่ไก่เบอร์สามแผงละ 130 บาท เบอร์สองแผงละ 145 เบอร์หนึ่งแผงละ 150 บาทซึ่งโดนข้อหาค้ากำไรเกินควร ร้านตลาดเทศบาลสามอำเภอหล่มสักจังหวัดเพชรบูรณ์และตลาด ณ ท่าศาลา อำเภอท่าใหม่ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาถือว่ามีความผิดเช่นเดียวกันสำหรับตลาดท่าใหม่ นอกจากไม่ติดป้ายราคาแล้วยังมีการจำหน่ายไข่ไก่เบอร์ศูนย์แผงละ 180 บาทเบอร์หนึ่งแผงละ 170 บาทเบอร์สองแผงละ 160 บาทจึงโดนข้อหาค้ากำไรเกินควรด้วยสำหรับที่ตลาดเลิศนิมิต อำเภอบางใหญ่ แผงชื่อก.ขายไข่ขายไข่ไก่เบอร์ศูนย์แผงละ 180 บาทถูกดำเนินคดีค้ากำไรเกินควร และร้านทวีทรัพย์จังหวัดอ่างทองซึ่งค้ากำไรเกินควรขายไข่ไก่เบอร์ศูนย์ 180 บาทต่อแผงและโดยในโยบายได้มีการสั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินคดีโดยเคร่งครัดรวมทั้งสกัดกั้นการลักลอบส่งออกตามบริเวณชายแดนด้วย

“ขอฝากเตือนผู้ที่ฉวยโอกาสซ้ำเติมความทุกข์ของประชาชนขณะนี้ อย่าแสวงหาประโยชน์จะถูกดำเนินคดีแน่นอน โดยศาลพิพากษาจำคุกจริงๆเพราะฉะนั้น จะไม่คุ้มกันกับการเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้าที่ได้รับมา และขอร้อง ผู้บริโภคให้ช่วยซื้อเท่าที่รับประทานได้ในเวลาไม่นานและออกไปซื้อใหม่”

จับไข่แพงเพิ่มอีก2ราย  ขยายเวลาห้ามส่งออกอีก30วัน

ส่วนการที่มีการประกาศห้ามส่งออกไข่ไก่ไปนอกราชอาณาจักรเป็นเวลา7วันนับตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมานั้นได้มีการเรียกประชุม คณะกรรมการฯ ตามขั้นตอน ตามกม.ที่จะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เพื่อขอความเห็นชอบและให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะประธานกกร.สามารถใช้ดุลพินิจในการที่จะขยายเวลาการห้ามส่งออกไข่ไกออกไปได้นับตั้งแต่วันประกาศได้ ไม่เกิน 30 วัน และ หากมีความจำเป็นต้องห้ามส่งออกนานกว่า 30 วัน ก็จะต้องกลับมาขออนุมัติต่อที่ประชุมใหม่