TFI ระดมทุน 1,320 ล้านบาท ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 4.6 หมื่นล้านบาท

17 มี.ค. 2563 | 08:59 น.

TFI ระดมทุน 1,320 ล้านบาท ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 46,068.75 ล้านบาท ออกหุ้นใหม่ 44,021.25 ล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม 1:21.50 หุ้นละ 0.03 บาท

 

บริษัทไทยฟิล์มอินดัสตรี่ จำกัด (มหาชน) (TFI) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 โดยคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาและมีมติอนุมัติในเรื่องสำคัญ คือ

มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท ฯที่ยังมิได้นำออกจำหน่าย จำนวน 614,250,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,661,750,000 บาท เป็นจำนวน 2,047,500,000 บาท และอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4.( เรื่องทุนจดทะเบียน ) เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท

มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,047,500,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 46,068,750,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน44,021,250,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท รวมทั้งสิ้น 44,021,250,000 บาท เพื่อรองรับกรจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) และอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4. (เรื่องทุนจดทะเบียน) เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ

มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 44,021,250,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ในอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 1 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 21.50 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 0.03 บาทโดยเศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง

ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสมปรากฏในงบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่31 ธันวาคม 2562 (ฉบับตรวจสอบ) บริษัทฯ จึงอาจกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของบริษัทฯ ได้ โดยบริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีกำรแก้ไขเพิ่มเติม) และได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ

ผู้ถือหุ้นอาจจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิของตนตามอัตราที่กำหนดไว้ข้างต้นได้(Oversubscription) โดยที่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิจะได้รับการจัดสรรหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิก็ต่อเมื่อมีหุ้นเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ที่ได้จองซื้อตามสิทธิครบถ้วนทั้งหมดแล้วเท่านั้น

ในการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในครั้งนี้ในกรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในรอบแรกแล้วบริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่ประสงค์จะจองซื้อเกินกว่าสิทธิตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมในราคาเดียวกันกับหุ้นที่ได้รับการจัดสรรตามสิทธิ ซึ่งรวมถึงผู้ถือหุ้นเดิมที่ประสงค์จะจองซื้อเกินกว่าสิทธิตามสัดส่วนการถือหุ้นที่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังได้มีมติอนุมัติกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2563

ทั้งนี้บริษัทฯ ระบุอีกว่าในกรณีที่หุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดที่บริษัทฯออกและเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ในครั้งนี้มีผู้จองซื้อเต็มจำนวน บริษัทฯจะสามารถระดมทุนได้เป็นจำนวนประมาณ 1,320,637,500 บาท  โดยมีแผนที่จะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ไปใช้

1. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทฯจำนวนประมาณ 400 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะใช้เงินจากการเพิ่มทุนในส่วนที่เหลือจากการใช้ตามวัตถุประสงค์ในข้อนี้ เพื่อการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมตามข้อ 2 และข้อ 3 ต่อไป

2. เพื่อคืนเงินกู้ยืมให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้อง ตามที่เปิดเผยการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 จำนวนเงินต้นวงเงิน 77 ล้านบาท (เนื่องจากเป็นการให้ความช่วยเหลือทางการเงินชั่วคราวเท่านั้น)

3. เพื่อชำระคืนหนี้ให้แก่สถาบันทางการเงิน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงิน  อย่างไรก็ดี แผนการใช้เงินดังกล่าวข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ได้รับหลังจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้