กูเกิล เผยข้อมูลอินไซด์ 5 เทรนด์มาแรงผ่านการเสิร์ช ยุคเศรษฐกิจอินเตอร์เน็ต ชี้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ต้องการความชัดเจนและเจาะจง ต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบสนองแบบทันใจมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันต้องการความสะดวกสบายที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
นายไมเคิล จิตติวาณิชย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดด้านธุรกิจ กูเกิล ประเทศไทย เปิดเผยว่าประเทศไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ผู้บริโภคใช้โทรศัพท์มือถือเป็นหลัก (mobile-first digital economy) ปัจจุบันมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตกว่า 50 ล้านคนในไทย และในจำนวนนี้มีผู้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือคิดเป็น 95% นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่มักค้นหาข้อมูลผ่าน Google และ YouTube
5 เทรนด์สำคัญจากรายงานของ Google ในหัวข้อ “Year in Search Thailand: Insights for Brands 2020 Report” ซึ่งรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคชาวไทยเพื่อให้ธุรกิจเข้าใจว่าสิ่งใดที่สำคัญต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง อันนำไปสู่แนวทางในการหาโอกาสของธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
1.การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลไม่ได้อยู่แค่ในหัวเมืองใหญ่ ผู้บริโภคในต่างจังหวัดมีการใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และกำลังไล่ตามผู้บริโภคในหัวเมืองใหญ่ๆ มาอย่างใกล้ชิด โดยมูลค่าการใช้จ่ายบนอินเตอร์เน็ตของผู้บริโภคกลุ่มนี้เติบโตเร็วกว่าผู้บริโภคในเขตเมืองหลักและโดยรอบถึงสองเท่า และนี่คือข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้บริโภคในต่างจังหวัดค้นหาบนอินเตอร์เน็ต
ปริมาณการค้นหาเกี่ยวกับยานยนต์กว่า 80% มาจากผู้บริโภคในต่างจังหวัด , ปริมาณการค้นหาเกี่ยวกับอาหารและของใช้กว่า 80% มาจากผู้บริโภคในต่างจังหวัด และ ปริมาณการค้นหาเกี่ยวกับสินค้าความงามและการดูแลตัวเองกว่า 75% มาจากผู้บริโภคในต่างจังหวัด ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคในต่างจังหวัดไม่ได้ถูกจำกัดด้วยความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยีอีกต่อไป และอินเตอร์เน็ตกลายเป็นทางเชื่อมสู่โอกาสและความฝันของพวกเขา
2.ธุรกิจแบบ on-demand กำลังเติบโต โดยความคาดหวังของผู้บริโภคชาวไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ผู้บริโภคต่างคาดหวังความสะดวกสบายจากทุกธุรกิจที่พวกเขาติดต่อและทำธุรกรรมด้วย โดยปริมาณการค้นหาบริการเรียกรถออนไลน์เพิ่มขึ้น 127% และปริมาณการค้นหาบริการส่งของเพิ่มขึ้น 85%
นอกจากนี้ความต้องการได้รับการตอบสนองแบบตรงจุดของผู้บริโภคยังสามารถเห็นได้จากการค้นหาสินค้าบน Google Search ที่มีความเฉพาะเจาะจงและตรงกับความต้องการส่วนตัวมากขึ้น เช่น ปริมาณการค้นหา “คอนโด ตลาดพลู” เพิ่มขึ้น 245% , ปริมาณการค้นหา “รองเท้าวิ่ง ผู้ชาย” เพิ่มขึ้น 127%
3.Omnichannel กลายเป็นวิถีชีวิตของผู้บริโภคไทย ผู้บริโภคชาวไทยกำลังมองหาประสบการณ์การซื้อสินค้าและบริการที่ราบรื่น ไม่มีสะดุด ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ส่งผลให้เส้นทางสู่การตัดสินใจซื้อมีความซับซ้อนมากขึ้น
พฤติกรรมแบบ Web-rooming: 1 ใน 5 ของผู้บริโภคชาวไทย ใช้ Google Search เพื่อค้นหาข้อมูล ขณะตัดสินใจซื้อของที่หน้าร้าน , การค้นหารีวิวผลิตภัณฑ์บน YouTube: รีวิวเกี่ยวกับรถยนต์ บ้าน และกล้อง ถูกค้นหามากที่สุดบน YouTube ขณะที่การค้นหาระหว่างเดินทาง: การค้นหาคำว่า “ใกล้ฉัน” เติบโตขึ้นในทุกหมวดหมู่ โดยมีบริบทและความต้องการที่แตกต่างกันออกไป อาทิ อาหาร: การค้นหา “หมูกระทะ ใกล้ฉัน” เพิ่มขึ้น 203% และ การค้นหา “เบเกอรี่ ใกล้ฉัน” เพิ่มขึ้น 163% , ยานยนต์: การค้นหา “อู่รถ ใกล้ฉัน” เพิ่มขึ้น 133% และ การค้นหา “ปั๊มน้ำมัน ใกล้ฉัน” เพิ่มขึ้น 156% , การเสริมสวย: การค้นหา “ร้านทำผม ใกล้ฉัน” เพิ่มขึ้น 376% และ การค้นหา “ร้านสปา ใกล้ฉัน” เพิ่มขึ้น 163% และ การท่องเที่ยว: การค้นหา “ที่เที่ยว ใกล้ฉัน” เพิ่มขึ้น 733%
4.ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมไร้เงินสด การเข้าถึงด้วยสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น ความมีเสถียรภาพของธุรกรรมออนไลน์ ความไว้วางใจของผู้บริโภค และการสนับสนุนจากภาครัฐ เป็นตัวขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมุ่งหน้าสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดอย่างรวดเร็ว โดยการค้นหา “บัตรเครดิต” เพิ่มขึ้น 1.3 เท่า และการค้นหา “บัตรเดบิต” เพิ่มขึ้น 1.3 เท่า
ผู้บริโภคยังใช้ Google Search เมื่อเจอปัญหาในการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินออนไลน์ โดยปัญหาที่ผู้บริโภคพบบ่อยที่สุดในการใช้แอพธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ “วิธีสมัคร” “เปลี่ยนเบอร์” และ “ใช้ไม่ได้”
5.ผู้บริโภคไทยใช้จ่ายอย่างมีจิตสำนึกเมื่อประสบกับผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ผู้บริโภคชาวไทยจำนวนมากจึงหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรักษาสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน โดยมีการค้นหาข่าวและกฎระเบียบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น รวมทั้งหันมาให้ความสนใจวิธีการใช้ชีวิตแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย
โดยการค้นหา “PM 2.5” และ “หน้ากาก N95” เพิ่มขึ้น 100 เท่า ,การค้นหา “รถยนต์ไฟฟ้า” และ “สกูตเตอร์ไฟฟ้า” เพิ่มขึ้นมากกว่า 250% และการค้นหาเกี่ยวกับ “ประหยัดไฟ” เพิ่มขึ้น 163%
นายไมเคิล กล่าวต่อไปอีกว่า จากรายงานจะเห็นได้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยแสดงความต้องการที่ชัดเจนและเจาะจง เช่น มีการค้นหาคำว่า "รองเท้า" เพิ่มขึ้นเพียงแค่ 1% แต่เมื่อค้นหาด้วยคำที่เจาะจงมากขึ้น เช่น "รองเท้าวิ่ง ผู้ชาย" กลับมีเปอร์เซ็นต์เพิ่มมากขึ้นถึง 127% "รองเท้าแตะ ผู้หญิง" เพิ่มขึ้น 37%
และมีความต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบสนองแบบทันใจมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยังต้องการความสะดวกสบายที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เช่น มีการค้นหา "บริการเรียกรถออนไลน์" เพิ่มขึ้น 127% และบริการส่งของ 85% แต่มีการค้นหา "ส่งฟรี" 223% และ "ส่งของ โปรโมชั่น" 117%
ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจสามารถนำพฤติกรรมการค้นหาเหล่านี้ของผู้บริโภค ไปเป็นข้อมูลในการใส่รายละเอียดสินค้าให้มากขึ้น เช่น รองเท้าวิ่งผู้ชาย สีดำ ส่งฟรี, ชุดเดรสลายดอกไม้ ฟรีไซส์ ส่งฟรี, หมูกระทะ ลาดพร้าว โปรโมชั่น เป็นต้น
การเรียนรู้และเข้าใจถึงสิ่งที่ผู้บริโภคสนใจและให้ความสำคัญ เป็นสิ่งที่ธุรกิจต่างๆ ต้องหมั่นทำอยู่เสมอเพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง