นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงการจับกุม ผู้กักตุนและขายหน้ากากอนามัยเกินราคา ว่า ผลการดำเนินติดตามในเรื่องของการค้าผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์มเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ได้มีการดำเนินการมาโดยลำดับ โดยได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์เชิญแพลตฟอร์มที่มีการค้าออนไลน์ที่หมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฏหมาย และได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนมาพบที่กระทรวงพาณิชย์แล้ว และได้เตือนให้ระมัดระวังอย่าให้กระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นโดยอาศัยแพลตฟอร์มใดก็ตาม และปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้ทำหนังสือเป็นทางการให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้รับทราบถึงข้อกฎหมายและโทษที่จะได้รับหากปล่อยให้มีการกระทำผิดกฏหมายบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ
ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์จะได้ดำเนินคดีกับแพลตฟอร์ม "ลาซาด้า" ( LAZADA ) จำนวน 3 คดี 1.คดีที่จังหวัดนครปฐมซึ่งได้มีผู้ร้องมาที่สายด่วน 1569 และเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดตามมาโดยลำดับ จนมีการทราบว่าร้านขายยาชื่อดีดี ฟาร์มา มีการค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มลาซาด้า พบของกลางจำนวน 28 กล่อง เป็นหน้ากากอนามัยและมีโค้ดลาซาด้าอยู่บนกล่องที่เตรียมการในการที่จะส่งมอบให้กับผู้ซื้อปลายทางชัดเจน พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา 2 ข้อหาเบื้องต้น คือ 1.ขายเกินราคา และ 2.ขายเกินราคาอันสมควร สำหรับการขายเกินราคาหน้ากากอนามัยสีเขียว(หน้ากากทางการแพทย์) จะขายได้ไม่เกิน 2.50 บาทต่อชิ้น แต่มีการขายเกินราคา เพราะถึงกล่องละ 1,100 บาท (กล่องละ 50 ชิ้น)ซึ่งเฉลี่ยชิ้นละประมาณ 22 บาทและขายเกินราคาสมควรคือค่ากำไร ซึ่งมีโทษไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนค้ากำไรเกินควรจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับทั้งสองกระทง และวันที่ 11 มีนาคม ภายหลังจากขยายผลในเรื่องนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ของพาณิชย์จังหวัดนครปฐมได้เข้าแจ้งความเวลา 10.00 น. กับกรรมการผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของลาซาด้าในฐานะตัวการร่วม ซึ่งมีโทษเท่ากันและพนักงานสอบสวนได้รับคดีเรียบร้อยแล้ว
2.การดำเนินการร้านที่จำหน่ายหน้ากากสีเขียวที่ใช้ทางการแพทย์ ในราคา 1,099 บาท ตกเฉลี่ยชิ้นละ 22 บาทโดยได้มีการเซ็นรับของเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 เวลา 15:00 น. และมีการบันทึกปากคำเจ้าหน้าที่ของบริษัทขนส่งที่มาส่งที่ปลายทางโดยมีหลักฐานใบสั่งซื้อมีหลักฐานเอกสารของลาซาด้าในการรับคำสั่งซื้อและรหัสการสั่งซื้อครบถ้วน โดยผู้ที่จำหน่ายคือร้าน 928 Shop เท่าที่ติดตามว่าปิดร้านไปแล้ว แต่หลังจากแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน คือ ตำรวจปคบ. (ตำรวจที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการคุ้มครองบริโภค)ที่ศูนย์ราชการในข้อหาขายเกินราคาควบคุมและค้ากำไรเกินควรโดยจะแจ้งข้อหากับร้าน 928 Shop และลาซาด้าที่เป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้มีการทำผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน
3.กรณีที่จังหวัดนครปฐม ร้านที่ดำเนินการขายผิดกฎหมาย คือ Appliance & Safety (NK) โดยขายในราคากล่องละ 1,299 บาท ชิ้นละ 26 บาท จะแจ้งข้อหาขายเกินราคากำหนดและค้ากำไรเกินควรเช่นเดียวกัน และจะส่งดำเนินคดีกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ต่อไป
“ ขณะนี้พบว่ามีความพยายามที่จะหาลู่ทางในการค้ากำไรเกินควรโดยปรับเปลี่ยนรูปแบบไปขายตามราคาควบคุมแต่คิดค่าขนส่งแพงมาก ขอเตือนว่าผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน จะเข้าข่าย ขายเกินราคาและขายในราคาสูงเกินสมควร ในสองข้อหาเช่นเดียวกัน เพราะคำว่าราคาควบคุมนั้นรวมทั้งตัวสินค้าและค่าบริการด้วย ดังนั้นค่าขนส่งถือเป็นค่าบริการถือว่าอยู่ในกฎหมาย ใครที่กำลังทำอยู่ก็มีความผิดตามกฎหมายเช่นเดียวกัน”
ส่วนกรณีที่มีคำถามที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองเล็กพรรคหนึ่งกระทำความผิดนั้น นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่ากรณีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลซึ่งอยู่ในพรรคการเมืองก็ไม่มีการยกเว้น ทั้งนี้ได้เข้าร่วมกับพนักงานสอบสวนในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นทั้งในส่วนที่เป็นข่าวและในส่วนที่เกิดขึ้นใหม่ก็จะได้ตามสืบสวนสอบสวนต่อไป หากกระทำความผิดกฎหมายก็จะดำเนินการทันที ทั้งนี้หากประชาชนจะให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแสและข้อมูลก็สามารถประสานงานได้ที่สายด่วน 1569 ทันที
บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร
“ในส่วนของข้อหาอาจจะได้ถึง 3 ข้อหา หนึ่งมีสินค้าไว้และไม่แจ้งปริมาณการเก็บสินค้าคงเหลือในกรณีที่เป็นตัวแทนจำหน่ายมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกิน 20,000 บาทและอาจเป็นข้อหามาตรา 25(1)ขายเกินราคาควบคุม จำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 100,000 บาทและสุดท้ายมาตรา 29 จำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 140,000 บาท ขณะนี้เรื่องอยู่ในมือของพนักงานสอบสวนแล้วทางกระทรวงพาณิชย์โดยทีมงานสายตรวจของกรมการค้าภายในกำลังสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นข้อมูลที่นำส่งให้กับพนักงานสอบสวนทำการดำเนินคดีได้ต่อไป”
ด้านนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงกรณีที่กรมศุลกากรมีการแถลงข่าวว่ามีการส่งออกหน้กากอนามัยไป 330 ตัน ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานั้นหากเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ไม่อนุญาตให้ส่งออก ยกเว้นหน้ากากอนามัยที่ไทยไม่ใช้หรือมีลิขสิทธิ์ไม่สามารถนำมาใช้ได้จากเป็นการรับจ้างผลิตมีเครื่องหมายการค้า ซึ่งถ้านำมาใช้จะมีปัญหาเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ ยืนยันว่าหน้ากากอนามัยที่ประเทศไทยใช้ในบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนใช้อยู่ปัจจุบันไม่มีการส่งออก อย่างไรก็ตามจะต้องดูรายละเอียดของประกาศกฎหมายและวันเวลาด้วย
วิชัย โภชนกิจ