บิ๊กเนม พลิกเกมรบ สู้ศึก‘โคโรนา’

08 มี.ค. 2563 | 05:00 น.

 

ผลประกอบการปี 2562 ต่างทยอยออกมา บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ยังสร้างรายได้ ทำกำไร แต่บางค่ายอาจปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ด้วยผลพวงสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโลกถดถอย นโยบายจีนสกัดพลเมืองห้ามนำเงินออกนอกประเทศ ตามด้วยสถานการณ์ความรุนแรงบนเกาะฮ่องกง ถึงขั้นกลียุค กระทั่งการจับจ่ายซื้อขายคอนโดมิเนียมในไทย ลดวูบ ตามด้วยเงินบาทแข็งค่า ต่างจำต้องชะลอการซื้อลง เนื่องจากราคาสูง มองว่าไม่คุ้มค่ากับผลตอบแทนที่อาจจะได้รับ

ซํ้าเติมด้วยมาตรการเข้มภายในประทศ ออกเครื่องมือดัก การเก็งกำไร, ทุจริตเงินทอน ความไม่พร้อมของคนซื้อบ้าน หรือเกณฑ์สินเชื่อใหม่ แอลทีวี ของธนาคารแห่งประเทศไทย หวังไม่ให้ซํ้ารอยฟองสบู่แตกเหมือนครั้งในอดีต โดยกำหนดเพดานการวางดาวน์ให้สูงขึ้น แต่เกณฑ์นี้ได้สร้างผลกระทบโดยตรงให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองประเภทซื้อจริงอยู่จริงต้องหาเงินก้อนโตมาวางดาวน์ จึงเป็นเหตุให้กำลังซื้อกลุ่มนี้หายไปจากตลาด ซึ่งต่างจากก่อนหน้าจะบังคับใช้กฎเหล็กนี้ ที่ผู้ประกอบการอาศัยจังหวะไตรมาสแรกปีที่ผ่านมาเป็นช่วงนาทีทอง โหมแคมเปญลด แลก แจก แถม เรียกยอดขายทำกำไรได้มาก แต่เมื่อก้าวข้ามเข้าสู่ไตรมาส 2 ปี 2562 ทุกอย่างกลับดิ่งลง

 

แม้แบงก์ชาติคลายความเข้มงวดให้พอเกิดการขยับตัวของผู้ประกอบการไทย ทว่าสงครามเชื้อโรคไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 เกิดการแพร่ระบาด มีต้นทางมาจากเมืองอู่ฮั่นจีนแผ่นดินใหญ่ขยายพันธ์ุลุกลามแรงเร็วกระจายไปทั่วโลก หลายประเทศกลายเป็นเมืองร้าง การจับจ่ายหยุดชะงัก เศรษฐกิจพังพาบในพริบตา จากเครื่องยนต์ใหญ่อย่างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลกดับวูบ กระทบเป็นโดมิโนในเวลานี้

บิ๊กเนม พลิกเกมรบ สู้ศึก‘โคโรนา’

ท่ามกลางมรสุมร้อนการระบาดหนักของโควิด-19 ดูท่ายังไม่สงบง่าย ส่งผลให้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับเครื่อง ยนต์ให้แรงขึ้น เพื่อทดแทนภาคท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นสินค้าเก็บได้ในระยะยาว ไม่เปื่อยไม่เน่า มีมูลค่าผลกำไรทั้งในแง่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง หรือลงทุนปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้

เหมือนหนามยอกเอาหนามบ่ง บริษัทอสังหาฯ ต่างออกแคมเปญพุ่งชนลูกค้าจีนอีกครั้ง จากความร่วมมือของเอเยนต์ใหญ่ชาวจีนทำหน้าที่รวบรวมคอนโดมิเนียมไทย เพื่อใช้ลี้ภัยเมื่อยามภัยมา ตลอดเวลามีการพูดถึง ความต้องการที่อยู่อาศัยที่จีน ยังต้องการในระยะยาวอย่าง บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บมจ.อนันดา ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์และแม้แต่ดีเวลอปเปอร์จากจีนและฮ่องกง เองอย่าง บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) ที่ประเมินว่าจีนยังต้องการลงทุน, อยู่อาศัยในไทย แต่ทำเลต้องมีศักยภาพเป็นที่ชื่นชอบใกล้โรงเรียนนานาชาติ รถไฟฟ้า

ขณะเดียวกัน ส่วนที่ลูกค้าจีนซื้อไปประมาณ 2 ปีก่อน เตรียมเร่งโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ประกอบการมีทั้งชั่งใจและ มั่นใจว่า ลูกค้าจีนจะกลับมาโอน ขณะการยืดระยะเวลาผ่อนคลายการโอนขยายเป็น 3 เดือน 6 เดือน ไปจนถึง 1 ปี โดยมีเอเยนต์เป็นตัวกลาง สะท้อนว่าลึกๆ แล้วจีนยังต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย

อีกตัวช่วยคือชะลอการขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ เน้นระบายสต๊อกที่มีในมือกว่า 2 แสนหน่วย ออกไปให้มากที่สุด ส่วนที่เหลือนำปล่อยเช่าสร้างผลตอบแทนกลับเข้ามา ส่วนการลงทุนใหม่ในปีนี้ส่วนใหญ่เน้นพัฒนาแนวราบ เจาะกลุ่มกำลังซื้อสูง การขายที่ดินที่สะสม ค่ายใหญ่มองว่า เป็นหนทางที่ดีที่สร้างสภาพคล่อง และวังวนการช้อนซื้อซากโครงการรายเล็กได้กลับมาอีกครั้ง นอกจากจะได้ราคาถูกและยังลงทุนเพิ่มอีกไม่มาก

สำหรับการทำแคมเปญของผู้ประกอบการสู้ศึกโควิด-19 ยังเป็นไปอย่างดุเดือด ล่าสุด บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) โดยนางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประเมินภาพรวมตลาดอสังหา ริมทรัพย์ไตรมาส 1/2563 จากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจตกตํ่าทั่วโลก โดยเฉพาะไวรัสโควิด-19 ทำให้บรรยากาศการทำธุรกิจไม่ค่อยสดใสราบรื่นเท่าที่ควร เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะ

ส่งผลให้SENA” ได้รวบคอนโดฯ พร้อมอยู่ 7 โครงการจัดแคมเปญโปรปิดตึกกับยูนิตล็อตสุดท้ายหั่นราคาสุดๆ ก่อนปิดโครงการ รับส่วนลดสูง 25%        

 

ขณะค่าย บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ ระบุแม้ปีนี้จะมีอุปสรรคมาก แต่ยังมุ่งมั่นผลักดันยอดขายให้สู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ 26,000 ล้านบาท รายได้ 24,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 30 โครงการ แนวราบ 25 โครงการ และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ   เช่นเดียวกับ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยอมรับว่า นาทีนี้ยกให้ กลุ่มแนวราบเป็นพระเอก โดยเน้นพัฒนาแนวราบไล่ตั้งแต่ทาวน์เฮาส์ไปจนถึงบ้านไฮเอนด์

ที่ผ่านมา อสังหาฯ บอบชํ้ามามากในหลากปัจจัย แต่เชื่อว่าทุกค่ายทุกแบรนด์ต่างฮึดสู้ แม้จะเป็นไวรัสสายพันธ์ุทำลายล้างระบบเศรษฐกิจอย่างโคโรนาหรือ โควิด-19 ก็ตาม

 

หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,555 วันที่ 8-11 มีนาคม 2563